简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
วาดเส้นแนวโน้มราคา ‘Trendline Forex’ แบบมืออาชีพต้องทำยังไง?
บทคัดย่อ:เส้นแนวโน้มราคา ‘Trendline’ ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เทรดเดอร์ Forex มืออาชีพ มันเอาไว้ใช้ในการระบุแนวรับ-แนวต้านที่คาดไว้ หลายคนก็ถามเข้ามาว่าเรื่อง Trendline นี่ยากไหม แล้วจะวาดได้ยังไง? บทความนี้เราจะมาไขความลับเทคนิคเรื่องการวาดเส้น Trendline แบบมืออาชีพกัน!
เส้นแนวโน้มราคา ‘Trendline’ ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เทรดเดอร์ Forex มืออาชีพ มันเอาไว้ใช้ในการระบุแนวรับ-แนวต้านที่คาดไว้ หลายคนก็ถามเข้ามาว่าเรื่อง Trendline นี่ยากไหม แล้วจะวาดได้ยังไง? บทความนี้เราจะมาไขความลับเทคนิคเรื่องการวาดเส้น Trendline แบบมืออาชีพกัน!

เส้นแนวโน้มราคา (Trendline) เป็นสิ่งที่จะกำหนด “ทิศทาง” ในการเทรดของเรา ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สามารถลากไปตามแนวโน้มเพื่อแสดงแนวรับหรือแนวต้าน ขึ้นอยู่กับทิศทางของแนวโน้ม ซึ่งสามารถบอกความแข็งแกร่งหรือจุดอ่อนของแนวโน้มได้ เป็นตัวช่วยให้เราตัดสินใจว่าจะเทรดไปในทิศทางไหน

เส้นแนวโน้มราคา แบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend), แนวโน้มขาลง (Downtrend), แนวโน้มเคลื่อนที่ไปด้านข้าง (Sideway) แน่นอนว่าการได้กำไรหรือขาดทุนจากการเทรด บางส่วนขึ้นอยู่กับวิธีการวาดเส้นแนวโน้มอย่างถูกต้อง โดยปกติเส้นแนวโน้มจะวาดขึ้นโดยใช้จุดสองจุด และแนวโน้มราคาที่คาดก็แสดงขึ้นตามลักษณะในภาพนี้

วิธีการวาดเส้นแนวโน้มที่ถูกต้องบนกราฟ Forex
1. เส้นแนวโน้มควรวาดจากจุดสูงสุด หรือต่ำสุดของกราฟ

2. แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) เริ่มจากจุดราคาที่ต่ำสุดแรกของกราฟ การลากเส้นจากจุดต่ำสุดหนึ่งไปหาจุดต่ำสุดอีกอันหนึ่ง ให้ได้อย่างน้อย 2 จุดขึ้นไป ยิ่งมีจุดสัมผัสที่สอดคล้องกันมากยิ่งดี ขณะที่แนวโน้มขาลง (Downtrend) เริ่มจากจุดราคาที่สูงสุดแรกของกราฟ ลากเส้นจากจุดสูงสุดหนึ่งไปยังจุดสูงสุดอีกอันหนึ่งที่อยู่ต่ำกว่า เช่นเดียวกับตอนตีขาขึ้นแต่กลับทางกัน

3. เส้นแนวโน้มไม่ควรตัดกับกราฟในอดีต ไม่อย่างงั้นมันอาจใช้ไม่ได้ผลเลย

4. เส้นแนวโน้ม ไม่สามารถวาดโดยใช้ราคาปัจจุบันได้ เทรดเดอร์มือใหม่ชอบพลาดที่จุดนี้

5. ควรวาดเส้นแนวโน้มโดยใช้หางของแท่งเทียนเท่านั้น ไม่ใช่ลากผ่านตรงกลางของแท่งเทียน เนื่องจากแท่งเทียนอาจแตกต่างกันมาก เมื่อเปลี่ยนไปใช้กรอบเวลาอื่น และอาจทำให้การวิเคราะห์ผิดเพี้ยนไป

ถ้าทำตามคำแนะนำง่าย ๆ เหล่านี้ มั่นใจได้เลยว่าคุณจะวาดเส้นแนวโน้ม Trendline Forex ได้ถูกต้องแน่นอน อย่าลืมไปหัดวาดกันล่ะ! นี่เป็นเพียงเทคนิคนึงที่เทรดเดอร์นิยมใช้เท่านั้น ในตลาดนี้ยังกลยุทธ์อีกร้อยแปดพันเก้า ที่คุณต้องเรียนรู้ก่อนจะลงสนาม และตอนนี้คุณสามารถเรียนรู้เทคนิค กลยุทธ์ในการเทรด Forex พร้อมกับติดตามข่าวสารในวงการนี้ได้แบบจัดเต็มผ่านแอป WikiFX เลย

ถ้าคุณคิดว่าเรียนรู้มากพอแล้ว ศึกษาเทคนิคจนชำนาญแล้ว คันไม้คันมือ อยากลงสนามเทรด Forex สิ่งต่อไปที่ต้องทำ คือคุณต้องไปเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ Forex ก่อน ซึ่งขั้นตอนนี้สำคัญมากกกกก เพราะคุณต้องเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลเท่านั้น มันคือสิ่งเดียวที่จะบอกได้ว่าโบรกเกอร์ Forex นั้น ๆ มีความน่าเชื่อถือ มั่นคง และปลอดภัย หากเกิดปัญหาใด ๆ หน่วยงานกำกับดูแลจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและชดเชยผลประโยชน์ที่สูญเสียไป ถ้าเลือกโบรกเกอร์เถื่อนละก็การเทรดครั้งนี้ล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้นแน่นอน

คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูลหมดไส้หมดพุง แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
อ้างอิงข้อมูล: fxssi.com, forexsi.com, dailypriceaction.com

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

Copy Trade คือทางลัดหรือกับดัก? ถ้าสนใจแต่ยังไม่แน่ใจต้องอ่าน
Forex Copy Trade เป็นระบบที่เปิดโอกาสให้นักลงทุน โดยเฉพาะมือใหม่ สามารถคัดลอกการเทรดของผู้เชี่ยวชาญแบบอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการวิเคราะห์ตลาด แต่แม้จะมีข้อดี เช่น ใช้งานง่าย เลือกความเสี่ยงได้ และเรียนรู้จากนักเทรดมืออาชีพ ระบบนี้ก็มาพร้อมความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ผลงานในอดีตไม่การันตีอนาคต ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมออเดอร์เอง และความเสี่ยงจากการบริหารเงินทุนของนักเทรดที่เลือก ดังนั้น การเลือกนักเทรดที่มีประวัติยาว การบริหารความเสี่ยงดี และผลลัพธ์สม่ำเสมอ ถือเป็นปัจจัยหลักในการใช้ Copy Trade ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ระยะยาว

เทรดเยอะได้คืนเยอะ! ความจริงเกี่ยวกับระบบ Forex Cashback ที่หลายคนยังไม่รู้
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Forex Cashback ในยุคที่การแข่งขันของโบรกเกอร์สูงขึ้น โดยชี้ให้เห็นว่าเงินคืนจากค่า Spread และ Commission สามารถลดต้นทุนการเทรดได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เทรดถี่หรือใช้ EA ซึ่งมีปริมาณการเทรดสูง ระบบ Cashback ทำงานผ่านการคืนส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมต่อจำนวนล็อตที่เทรด ทำให้เทรดเดอร์ได้รับผลประโยชน์ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน พร้อมวิเคราะห์ข้อดี ข้อควรระวัง วิธีเลือกผู้ให้บริการที่ปลอดภัย และแนวทางใช้ Cashback ให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด โดยสรุปแล้ว Forex Cashback เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดโดยไม่เพิ่มความเสี่ยง และเป็นโอกาสที่เทรดเดอร์ไม่ควรมองข้าม

ไทยติดอันดับ 1 ความเสียหายจากการฉ้อโกงในเอเชียแปซิฟิก นักเทรดเองก็เสี่ยงนะ
บทความนี้กล่าวถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในยุคดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะนักเทรด Forex ที่ต้องทำธุรกรรมออนไลน์เป็นประจำ ท่ามกลางภัยฉ้อโกงรูปแบบใหม่ที่พัฒนาด้วย AI เช่น ข้อความปลอม ลิงก์ปลอม และการหลอกให้กดยืนยันธุรกรรมเอง ซึ่งเป็นสาเหตุความเสียหายมหาศาลในประเทศไทย ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าจุดอ่อนสำคัญคือ “ผู้ใช้” ไม่ใช่ระบบ จึงเน้นย้ำว่านักเทรดต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูล การตรวจสอบความถูกต้องของช่องทางต่าง ๆ และตระหนักว่าในโลกออนไลน์ ความอยู่รอดสำคัญไม่แพ้ความสามารถในการเทรด.

ไม่รู้ไม่ได้! 5 ตัวเลือก Platform Trading ที่นักเทรดทุกคนต้องเช็ก
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Platform Trading สำหรับนักเทรด Forex ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการเปิด–ปิดออร์เดอร์ วิเคราะห์กราฟ และบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสรุปฟีเจอร์ที่แพลตฟอร์มที่ดีควรมี ประเภทของแพลตฟอร์มทั้งเชิงพาณิชย์และเฉพาะสถาบัน รวมถึงปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้งาน เช่น ฟีเจอร์ ค่าธรรมเนียม และความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ โดยยกตัวอย่างแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4/MT5, cTrader และ NinjaTrader เพื่อช่วยให้นักเทรดเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับกลยุทธ์และรูปแบบการเทรดของตนเอง.
WikiFX โบรกเกอร์
JustMarkets
STARTRADER
GTCFX
Vantage
fpmarkets
EC markets
JustMarkets
STARTRADER
GTCFX
Vantage
fpmarkets
EC markets
WikiFX โบรกเกอร์
JustMarkets
STARTRADER
GTCFX
Vantage
fpmarkets
EC markets
JustMarkets
STARTRADER
GTCFX
Vantage
fpmarkets
EC markets
