简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
Crypto จะทำให้เกิดวิกฤตการเงินในครั้งต่อไป
บทคัดย่อ:นาย Brett Heath ซีอีโอของบริษัท Metalla Royalty & Streaming ได้ออกมากล่าวเตือนว่าคริปโตจะ “นำไปสู่วิกฤตการเงินในครั้งต่อไป”
นาย Brett Heath ซีอีโอของบริษัท Metalla Royalty & Streaming ได้ออกมากล่าวเตือนว่าคริปโตจะ “นำไปสู่วิกฤตการเงินในครั้งต่อไป” Metalla Royalty & Streaming เป็นบริษัทในแคนาดาที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 และมีมูลค่าสุทธิในปัจจุบันเกือบ 500 ล้านดอลลาร์

โดยได้นำเสนอการลงทุนโลหะมีค่า ทองคำและแร่เงินผ่านทางสตรีมมิ่ง ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทางการเงิน Kitco News เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา Heath ได้เปรียบเทียบคริปโตกับความผิดพลาดทางเทคโนโลยีในช่วงต้นปี 2000 และวิกฤตวิกฤตซับไพรม์ในปี 2008 โดยเขาได้ตั้งข้อสังเกตว่า : “เมื่อคุณมองย้อนกลับไปในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมาและมองไปที่วิกฤตการณ์ทางการเงินทั้งหมดที่เกิดขึ้น คุณจะรู้ได้ว่าพวกมันมีสองสิ่งที่เหมือนกัน และหนึ่งในนั้นคือ การนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ มาใช้จำนวนมากหรือเทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนัก” หากเราย้อนกลับไปสู่วิกฤตซับไพรม์ในปี 2008 เรามีการนำหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นภาระหนี้ค้ำประกัน และเมื่อประชาชนยอมรับสิ่งนี้แล้ว

หากผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่นี้เกิดความผิดพลาดมันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่“ เขากล่าวเสริม Heath อธิบายว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็น ”ใบอนุญาตสำหรับภาคเอกชนที่ใช้สำหรับการพิมพ์เงิน“ ในขณะที่เขาตั้งคำถามถึงปริมาณสภาพคล่องที่ถูกสูบฉีดเข้าสู่ตลาดตั้งแต่ต้นปี 2017 Heath เปรียบเทียบกับ M1 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นอุปทานยสภาพคล่องทั้งหมดในการหมุนเวียนเงินดอลลาร์ โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่านับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2017 M1 ได้เติบโต ” เพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่า“ จาก 4,018 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2020 เป็นราว 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์ ในเดือนเมษายนของปีนี้ เขากล่าวว่า: ”นั้นเป็นการเพิ่มขึ้นที่ไม่ธรรมดาและเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ และถ้าหากคุณลองมองที่สกุลเงินดิจิทัล คุณจะเห็นได้ว่ามูลค่าตลาดโดยรวมของสกุลเงินดิจิทัลนั้นเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า“ Heath ดูเหมือนจะมีความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนจำนวนมากในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเขารู้สึกว่ามัน ”ไม่มีมูลค่าที่แท้จริง และผลลัพธ์สุดท้ายที่เขาคาดการณ์ไว้ก็คือ การแห่เทขายคล้ายกับวิกฤตเทคโนโลยีในช่วงต้นปี 2000

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

3 ชั่วโมงที่เปลี่ยนชะตา! นักศึกษาแพทย์ขาดทุนคริปโต 2 ล้าน ชีวิตหลังเหตุการณ์ยังยืนไหวไหม?
บทความนี้อธิบายความแตกต่างระหว่าง ตลาดกระทิง และ ตลาดหมี พร้อมชี้ให้เห็นว่าแก่นสำคัญของการอยู่รอดในตลาด Forex ไม่ใช่ทิศทางของราคา แต่คือ จิตวิทยาและวินัยของเทรดเดอร์ ตลาดกระทิงมักสร้างความมั่นใจและความโลภ ขณะที่ตลาดหมีทำให้เกิดความกลัวและการขายแบบตื่นตระหนก ความผิดพลาดส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมมนุษย์ ไม่ใช่สภาพตลาด เทคนิคสำคัญเพื่ออยู่รอดคือ การอ่านแนวโน้มหลัก ตั้งกฎการเทรดที่ชัดเจน ใช้ Stop Loss อย่างมีวินัย และควบคุมอารมณ์ให้มั่นคง บทความสรุปว่า การเข้าใจทั้งตลาดและเข้าใจตัวเองคือกุญแจสู่การเติบโตของพอร์ตอย่างยั่งยืน

ยังทันไหม? ความจริงของการขุดคริปโตปีนี้ที่หลายคนไม่กล้าบอก
บทความนี้วิเคราะห์ความคุ้มค่าของการขุด Bitcoin ในปีปัจจุบัน โดยพิจารณาปัจจัยสำคัญ เช่น ค่าไฟฟ้า ความยากในการขุด ราคาตลาด และต้นทุนอุปกรณ์ พร้อมอธิบายโครงสร้างรายได้หลังการ Halving ที่ทำให้รางวัลลดลงและการแข่งขันสูงขึ้น ผลการประเมินพบว่าการขุดจะคุ้มค่าสำหรับผู้ที่มีต้นทุนไฟฟ้าต่ำและอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง รวมถึงผู้ที่ต้องการสะสม Bitcoin ระยะยาว ขณะที่ผู้ที่มีค่าไฟสูงหรือหวังผลตอบแทนเร็วอาจไม่เหมาะกับการขุดในช่วงนี้ โดยมีทางเลือกอื่นที่คุ้มค่ากว่า เช่น การซื้อสะสมแบบ DCA หรือการลงทุนในบริษัทเหมือง Bitcoin บทความจึงสรุปว่า การขุดยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ แต่ขึ้นอยู่กับโครงสร้างต้นทุนและกลยุทธ์ของผู้ลงทุนเป็นหลัก

บทเรียนจากจาเมกาถึงหาดใหญ่ ที่ชี้ว่า “อนาคตต้อง Decentralized”
บทความนี้สะท้อนให้เห็นปัญหาการสื่อสารที่มัก “หายไปทันที” เมื่อเกิดภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วมในภาคใต้ของไทย หรือพายุเฮอริเคน Melissa ที่จาเมกา ซึ่งทำให้โครงสร้างสื่อสารแบบรวมศูนย์ล่มกว่า 70% เหตุการณ์ดังกล่าวผลักให้ชาวจาเมกาหันมาใช้ Bitchat แอปสื่อสารแบบ Decentralized ที่ทำงานผ่าน Bluetooth Mesh Network ส่งข้อความกันได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต เครือข่ายประชาชนลักษณะนี้พิสูจน์ว่าเทคโนโลยี Decentralized ไม่ได้มีไว้เพียงเทรดคริปโต แต่มีบทบาทสำคัญต่อความปลอดภัยและการช่วยชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉิน บทความชี้ให้เห็นว่าไทยควรพิจารณาเทคโนโลยี DePIN หรือระบบสื่อสารฉุกเฉินแบบไม่พึ่งโครงสร้างรวมศูนย์ เพื่อเพิ่มความทนทานในการรับมือภัยพิบัติในอนาคต.

จำผิดมานานหรือเปล่า? ความจริงของรหัส CFX ที่ควรรู้ก่อนทุกการเทรด
คำว่า CFX ไม่ใช่รหัสสกุลเงิน Forex แต่เป็นสัญลักษณ์ของเหรียญคริปโต Conflux (CFX) ซึ่งเทรดในตลาดคริปโตหรือ Crypto CFD การสับสนระหว่าง CFX กับคู่เงิน Forex อาจนำไปสู่การเปิดออเดอร์ผิดประเภท ประเมินความเสี่ยงผิด และวิเคราะห์กราฟผิดบริบท การเข้าใจประเภทสินทรัพย์ที่เทรดอยู่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบริหารความเสี่ยงและทำกลยุทธ์เทรดให้แม่นยำ
