简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
“ไทยสร้างไทย” ค้านการเก็บภาษี Crypto ไม่เป็นธรรม
บทคัดย่อ:พรรคไทยสร้างไทยแสดงจุดยืนคัดค้านการเก็บภาษี crypto ตามการรายงานของกรมสรรพากรที่ผ่านมา พร้อมประกาศสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนในสินทรัยพ์ดิจิทัล
เมื่อไม่นานมานี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้นำทัพพร้อมด้วย นายธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ และนายนรุตม์ชัย บุญนาค จากพรรคไทยสร้างไทยแสดงจุดยืนคัดค้านการเก็บภาษี crypto ตามการรายงานของกรมสรรพากรที่ผ่านมา พร้อมประกาศสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนในสินทรัยพ์ดิจิทัล หรือ “Digital Asset Hub” คุณหญิงสุดารัตน์ได้กล่าวว่า “การเก็บภาษี crypto ในประเทศไทยสะท้อนถึงความไม่เข้าใจโอกาสในการสร้างรายได้เข้าประเทศซึ่งเป็น New Economy ของรัฐบาล และเป็นการปิดกั้นโอากาสในการหารายได้ของคนรุ่นใหม่”

ทั้งนี้มีชุมชนคริปโตหลายฝ่ายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การที่รัฐบาลเก็บภาษีจากรายได้ของผู้ทำกำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัลคงไม่มีใครว่า ถ้าเก็บอย่างเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบผู้เสียภาษี แต่ในทางตรงกันข้ามรัฐบาลควรส่งเสริมการใช้โอกาสในการสร้างรายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า ทั้งนี้ตามข่าวการเก็บภาษีของรัฐบาลที่ออกมาแบ่งออกเป็น 2 ชั้นตอนคือ เก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย หรือ Withholding Tax 15% ในที่นี้นักลงทุนจะต้องเป็นผู้ทำการหักและนำส่งกำไรจากการลงทุนเป็นราย Transaction ซึ่งในทางปฎิบัตินั้นเป็นไปได้ยากมากเพราะเวลาซื้อขายมักจะทำธุรกรรมผ่านกระดานเทรดหรือ DeFi ซึ่งบางแห่งไม่รองรับการออกหนังสือบันทึกธุรกรรมแก่นักลงทุน ทั้งนี้รวมถึงนักลงทุนแบบ Day Trade ที่มีการซื้อขายหลายรายการต่อวันทำให้หากต้องคำนวณและหักภาษีนำส่งเป็นราย Transaction แทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับบุคคลธรรมดาที่ไม่มีแผนกบัญชี
ทำให้ในตอนนี้จำเป็นต้องออกแบบการเก็บภาษี crypto เช่นเดียวกันกับการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด เก็บภาษีเงินได้ประจำปีตามอัตราก้าวหน้า (0-35%) แม้ว่าจะเสีย Withholding Tax 15% แต่ก็ยังคงไม่จบลงเนื่องจากยังคงมีการเก็บภาษีจากเงินได้ประจำปีตามอัตราก้าวหน้าอีกด้วย ซึ่งสูงถึง 35% ส่งผลให้ในตอนนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ได้ย้ายฐานการลงทุนไปยังแพลตฟอร์มต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยดูได้จากโวลุ่มการซื้อขายของกระดานเทรดในประเทศไทยที่ลดต่ำลงในช่วงสัปดาห์ท่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลให้ท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลอาจไม่อาจเรียกเก็บภาษี VAT หรือแม้แต่เงินได้นิติบุคคลจากธุรกิจในประเทศไทยได้เลย
ศูนย์กลางการลงทุนของสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Hub) พรรคไทยสร้างไทย เห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของโลกยุคใหม่ จึงมีนโยบายที่จะสร้างประเทศไทย ให้เป็น “ศูนย์กลางการลงทุนของสินทรัพย์ดิจิทัล” หรือ “Digital Asset Hub” ของโลก เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) ให้มาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีรายได้เข้ามามากมาย และยังเป็นการพัฒนาบุคลากรของไทยเราให้เก่งยิ่งขึ้น ทั้งนี้การทำให้ไทยเป็น Digital Asset Hub ไม่ใช่เรื่องยากหรือไกลเกินฝัน ขอเพียงรัฐบาลเข้าใจ มีวิสัยทัศน์ สนับสนุนส่งเสริม ปลดล็อกกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นความสามารถของคนรุ่นใหม่ พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าการไม่เก็บภาษีคริปโตบนกระดานเทรดที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทยเหมือนการเทรดหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นการส่งเสริมให้ไทยเป็น

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

รวบ “จีนเทา” เอี่ยวแชร์ลูกโซ่คริปโต FINTOCH มูลค่ากว่า 456 ล้าน ซุกตัวในบ้านหรู
คดีสะเทือนวงการคริปโตไทยเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 บุกจับกุมนายเหลียง ไอ่-ปิง สัญชาติจีน หัวหน้าเครือข่ายแชร์ลูกโซ่คริปโต “FINTOCH” ที่ก่อคดีหลอกลวงนักลงทุนในจีน มูลค่าความเสียหายกว่า 456 ล้านบาท ภายในบ้านพักหรูย่านวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยพบว่าผู้ต้องหาใช้ชีวิตอย่างหรูหราและครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย FINTOCH ถูกสร้างขึ้นโดยอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนให้ผลตอบแทนสูง แต่แท้จริงคือโครงการหลอกลวงที่นำเงินนักลงทุนหนีออกนอกประเทศ การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างไทยและจีน และถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญให้ผู้ลงทุนระมัดระวังแพลตฟอร์มคริปโตที่ไม่น่าเชื่อถือ แม้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะโปร่งใส แต่ “คน” ยังคงเป็นจุดอ่อนที่เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง.

สงครามการลงทุน หุ้น VS คริปโต แบบไหนทำเงินได้เหนือกว่า?
ในงาน Bitkub Summit 2025 ช่วงบ่ายวันแรก มีการเสวนาหัวข้อ “The Investment War: สมรภูมิการลงทุน” โดยกูรูการเงินชื่อดังอย่าง ลุงโฉลก, อ.ตั๊ม, โค้ชแมน และคุณปิง ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองด้านหุ้นและคริปโต ลุงโฉลกมองว่า Bitcoin อาจแตะ $1,000,000 ได้ในอนาคต จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ไม่ใช่เพราะมูลค่าที่แท้จริงเพิ่มขึ้น ขณะที่ อ.ตั๊ม เห็นว่า Bitcoin คือสินทรัพย์เก็บมูลค่าที่แข็งแกร่งในระยะยาว ด้าน โค้ชแมนและคุณปิง เชื่อว่าหุ้นไทยยังมีโอกาส โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ที่มีเงินปันผลสูง แม้ตลาดยังไม่ชัดเจน ทั้งสี่เห็นตรงกันว่า ปี 2026 นักลงทุนต้องรับมือกับเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลง ควรลงทุนอย่างรอบคอบและบริหารความเสี่ยงเป็นหลัก

ตลาดคริปโตเด้งเบา ๆ หลังข่าวผู้นำสองขั้วอำนาจโลกเตรียมเปิดโต๊ะพูดคุย
หลังจาก Bitcoin ร่วงหลุดแนวรับสำคัญ ตลาดคริปโตเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวเล็กน้อย โดยราคาปรับขึ้นราว 1% ภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากแรงซื้อคืนเชิงเทคนิค (Weekend Pump) และความคาดหวังจากข่าวการพบกันระหว่าง **ทรัมป์และสี จิ้นผิง** ที่อาจช่วยคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้า นักลงทุนมองว่านี่เป็นโอกาสฟื้นตัวระยะสั้น แต่ Altcoin ยังอยู่ในแนวโน้มขาลง ความผันผวนสูง และยังขาดแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าก็กดดันคริปโตระยะสั้น บทความเน้นให้ติดตามทั้ง **ข่าวเศรษฐกิจและการเคลื่อนไหวค่าเงินดอลลาร์** เพื่อประเมินทิศทางตลาดคริปโตอย่างรอบคอบในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2025.

เหยื่อมีหวัง! อังกฤษเตรียมคืนเงิน 6,800 ล้านดอลลาร์ หลังยึดบิตคอยน์ จากแก๊งฟอกเงินข้ามชาติ
ศาลอังกฤษเตรียมคืนเงินให้เหยื่อคดีหลอกลงทุน Bitcoin มูลค่ากว่า 6,800 ล้านดอลลาร์ หลังตำรวจลอนดอนยึดเหรียญ BTC ได้กว่า 61,000 เหรียญ คดีนี้มีต้นตอมาจากโครงการแชร์ลูกโซ่ “Tianjin Lantian” ในจีนที่หลอกนักลงทุนกว่า 128,000 คน ล่าสุดผู้ต้องหาหลัก Yadi Zhang ยอมรับสารภาพในข้อหาฟอกเงิน เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าความโลภและการขาดความรู้ยังเป็นช่องโหว่ใหญ่ของโลกคริปโต และนักลงทุนควรระวังโปรเจกต์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง.
WikiFX โบรกเกอร์
EC Markets
IC Markets Global
STARTRADER
InteractiveBrokers
XM
JustMarkets
EC Markets
IC Markets Global
STARTRADER
InteractiveBrokers
XM
JustMarkets
WikiFX โบรกเกอร์
EC Markets
IC Markets Global
STARTRADER
InteractiveBrokers
XM
JustMarkets
EC Markets
IC Markets Global
STARTRADER
InteractiveBrokers
XM
JustMarkets
