ดอลลาร์ทรงตัวในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ล่วงหน้าถึงตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ

โดย Scott Kanowsky

Investing.com - ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวก่อนข้อมูลใหม่จากสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวลงเล็กน้อยของอัตราเงินเฟ้อที่ร้อนแรงในระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในเวลา 02:30 น. EST (06.30 GMT) ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับกลุ่มสกุลเงินหลักของโลกอื่น ๆ ซื้อขายลดลงเพียงเล็กน้อย 0.04% เป็น 106.33

ดัชนีราคาผู้บริโภค เดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ มีกำหนดส่งมอบในเวลา 08:30 น. EST (12:30 GMT) โดยคาดว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 8.7% ลดลงจากระดับที่พุ่งขึ้นแตะ 9.1% ก่อนหน้านี้ของเดือน ตัวเลขที่ลดลงอาจถูกมองว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งถึงจุดสูงสุด แม้ว่าจะยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษก็ตาม

โดยตัวเลขที่ลดลงดังกล่าวไม่น่าจะเปลี่ยนเส้นทางของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ได้ดำเนินการอย่างแข็งกร้าวในการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย เพื่อพยายามลดอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น เฟดได้กล่าวว่าจะใช้เวลาหลายเดือนในการทำให้การเติบโตของ CPI ลดลง ก่อนที่จะเริ่มคลายความตึงตัวทางการเงิน

ธนาคารกลางจะมีชุดข้อมูลที่จะเป็นตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจสำหรับเดือนสิงหาคมเพื่อพิจารณาก่อนการตัดสินใจต่ออัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป แต่นักลงทุนจะมองหาเบาะแสที่เป็นไปได้ต่อปฏิกิริยาเริ่มต้นหลังจากได้รับข้อมูลในวันพุธ ซึงน่าจะมีความคิดเห็นในวันนี้จากเจ้าหน้าที่ของเฟด คือ Charles Evans และ Neel Kashkari

ข้อมูลด้านอื่น ๆ ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) และ ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีนขยายตัวในอัตราที่ช้ากว่าที่คาดในเดือนก.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศยังคงเผชิญกับผลพวงที่มาจากมาตรการการล็อกดาวน์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด19 ที่ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ USD/CNH ร่วงลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ตามการซื้อขายนอกประเทศ

AUD/USD ยืนเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ที่ 0.6960 ดอลลาร์เล็กน้อย ขณะที่ NZD/USD ทรงตัวที่ 0.6284 ดอลลาร์ เงินเยน ของญี่ปุ่นขยับลง 0.08% เป็น 135.03 เยน

ในขณะเดียวกัน ตัวเลข CPI ของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.ค. ลดลงเพียงเล็กน้อยที่ 7.5% ในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านราคายังคงแข็งแกร่งในพื้นที่เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

EUR/USD มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 1.0208 ดอลลาร์

นอกจากนี้ บิทคอยน์ ก็เพิ่มขึ้น 3.89% เป็น 22,942.2 ดอลลาร์ เนื่องจากสกุลเงินดิจิตอลยังคงรู้สึกถึงผลกระทบจากความล้มเหลวและการโจรกรรมของกองทุนคริปโตล่าสุด