简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
6 วิธี ! เทรดยังไงไม่ให้ล้างพอร์ต
บทคัดย่อ:วันนี้แอดเหยี่ยวขอเสนอ 6 วิธี! การเอาตัวรอดในตลาด Forex เทรดยังไงไม่ให้ล้างพอร์ต มาให้ได้อ่านกันครับ วิธีเหล่านี้เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ควรรู้ ถึงแม้ว่าการล้างพอร์ตจะเป็นเรื่องที่เทรดเดอร์ Forex เคยเจอกันมาก่อนแล้วก็ตาม แต่คงไม่มีใครที่ไหนอยากจะโดนกันหรอก ถ้าไม่อยากโดนล้างพอ์ตก็ทำตามนี้กันได้เลยครับ

วันนี้แอดเหยี่ยวขอเสนอ 6 วิธี! การเอาตัวรอดในตลาด Forex เทรดยังไงไม่ให้ล้างพอร์ต มาให้ได้อ่านกันครับ วิธีเหล่านี้เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ควรรู้ ถึงแม้ว่าการล้างพอร์ตจะเป็นเรื่องที่เทรดเดอร์ Forex เคยเจอกันมาก่อนแล้วก็ตาม แต่คงไม่มีใครที่ไหนอยากจะโดนกันหรอก ถ้าไม่อยากโดนล้างพอ์ตก็ทำตามนี้กันได้เลยครับ
1. อย่าเทรดบ่อย
เทรด Forex ไม่บ่อย เทรดน้อย ๆ แต่เน้นคุณภาพดีกว่านะ คุณอาจจะเคยเทรดอย่างบ้าคลั่งวันละ 20 รอบ และคงพบว่าการเทรดแบบนั้นไม่ได้ช่วยให้ได้กำไรเลย มันทำให้คุณเครียดเกินไปด้วยซ้ำ แบบนั้นอารมณ์ยิ่งมาเต็ม ลองลดจำนวนการเทรดอาจจะวันละ 1 ครั้ง หรือสัปดาห์ ซึ่งคุณสามารถทำกำไรให้มากโดยการไปเพิ่ม Lot size แทน ออกน้อยครั้งแต่ให้โดนทุกครั้งดีกว่า อย่าเฝ้าหน้าจอเยอะ ลองหาอะไรอย่างอื่นทำนอกจากการเทรด ลืมเรื่องการเทรดไปซะ แล้วทำมันให้เหมือนกับการล้างจาน ถึงเวลาก็มาล้างเท่านั้นเอง จะทำให้คุณ Focus ได้ดียิ่งขึ้น
2. ถือสั้น
ตลาด Forex มีการผันผวนเป็นระยะ ถ้าเกิดว่าเราถือออเดอร์แบบยาว ๆ แล้ววันดีคืนดีเกิดตลาดผันผวนขึ้นมา ออเดอร์ดังกล่าวก็อาจจะถูกกราฟกระชากทำให้พอร์ตติดลบท้ายที่สุดก็อาจจะล้างพอร์ต ดังนั้นถ้าอยากอยู่บนตลาด Forex ยาว ๆ ขอแนะนำว่าคุณควรถือออเดอร์สั้น ๆ จะดีกว่า
3. ตั้ง Stop Loss
Stop Loss คือการกำหนดจุดของการขาดทุนไว้ ว่าต้องการปิดออเดอร์ที่เราเปิดไว้ที่ราคาเท่าไหร่ ซึ่งในการเทรด Forex จุดของการ Stop Loss อาจเป็นการหยุดขาดทุนกำไรก็ได้ หมายความว่าคุณได้กำไรอยู่แล้ว แต่ป้องกันพีคดิ่งลงมากเกินไปก็ตั้งค่า Stop Loss เอาไว้ เช่น ตอนนี้บวกอยู่ 10 จุด แต่เราตั้ง Stop Loss ไว้ที่บวก 5 จุด เมื่อกราฟขึ้นสูงแล้วและกำลังลงไปในทางที่จะติดลบมาก ๆ มันก็จะปิดที่บวก 5 จุด ซึ่งการตั้งค่า Stop Loss ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก สำหรับมือใหม่ที่ไม่อยากล้างพอร์ต!
4. หัด Cut loss ซะบ้าง
เมื่อเกิดความเสียหายหนักมา ๆ แล้ว Stop ไม่ทัน จึงกลายเป็นการตัด Cut loss คือการยอมรับสภาพการขาดทุน เมื่อการขาดทุนไปมากกว่าจุดที่กำหนดแล้ว และไม่อยากขาดทุนไปมากกว่านี้ ต้องสั่ง Cut loss โดยตัวเลขที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี คือไม่เกิน 10% จากเงินลงทุน ทั้งนี้เมื่อขาดทุนคุณอาจจะหยุดเล่นก่อน แล้วมองหาสาเหตุที่ทำให้ขาดทุนเพื่อจะได้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น จากนั้นจึงกลับมาเริ่มเทรดอีกครั้ง ซึ่งวิธีเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ดีกว่าปล่อยให้ไฟลามจนพอร์ตระเบิดนะจ๊ะ
* Cut loss = ขาดทุนแล้ว, Stop loss = ยังไม่ขาดทุน*
5. ยิ่งเรียนมาก โอกาสล้างพอร์ตยิ่งน้อย
ในทุกสัปดาห์ให้คุณอาจจะจัดตารางเรียน 1 ครั้ง เพื่อไปเรียนเกี่ยวกับเรื่องของการลงทุน เทคนิคกลยุทธ์ต่าง ๆ นี่เป็นตัวช่วยให้อัตรา% การทำกำไรของคุณเพิ่มได้จริง ๆ นะ ซึ่งเดี๋ยวนี้มันเป็นเรื่องง่ายมาก ๆ ตอนนี้ความรู้ยิ่งหาง่าย โดยเฉพาะแอป WikiFX คือรวบรวมความรู้ เทคนิค กลยุทธ์ Forex รอคุณไว้หมดแล้ว มีแจ้งเตือนทุกวัน ที่สำคัญคือโหลดฟรี! ถ้าคุณเรียนรู้ทุกวันอย่างต่อเนื่อง จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนแน่นอน
6. อย่าเทรดกับโบรกเกอร์ Forex เถื่อน
อันนี้การันตรีได้เลยว่า การเทรดกับโบรกเกอร์เถื่อนเป็นหนทางที่จะทำให้คุณล้างพอร์ตได้ 100% รู้หรือไม่ว่าบางทีโบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาต ไม่ได้เอาเงินเราไปที่ตลาด Forex จริง ๆ พวกเขาแต่งกราฟปลอม ๆ ทำทุกวิธีทางให้คุณขาดทุน แล้วฮุบเงินหนีไปอย่างสบายใจ ทางที่ดีควรเลือกโบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
แอดเหยี่ยวหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และที่สำคัญก่อนที่จะเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม แอดอยากให้ศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง ถือว่าแอดเตือนแล้วนะ!!! ที่สำคัญอย่าลืมมาตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี !

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

Copy Trade คือทางลัดหรือกับดัก? ถ้าสนใจแต่ยังไม่แน่ใจต้องอ่าน
Forex Copy Trade เป็นระบบที่เปิดโอกาสให้นักลงทุน โดยเฉพาะมือใหม่ สามารถคัดลอกการเทรดของผู้เชี่ยวชาญแบบอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการวิเคราะห์ตลาด แต่แม้จะมีข้อดี เช่น ใช้งานง่าย เลือกความเสี่ยงได้ และเรียนรู้จากนักเทรดมืออาชีพ ระบบนี้ก็มาพร้อมความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ผลงานในอดีตไม่การันตีอนาคต ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมออเดอร์เอง และความเสี่ยงจากการบริหารเงินทุนของนักเทรดที่เลือก ดังนั้น การเลือกนักเทรดที่มีประวัติยาว การบริหารความเสี่ยงดี และผลลัพธ์สม่ำเสมอ ถือเป็นปัจจัยหลักในการใช้ Copy Trade ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ระยะยาว

เทรดเยอะได้คืนเยอะ! ความจริงเกี่ยวกับระบบ Forex Cashback ที่หลายคนยังไม่รู้
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Forex Cashback ในยุคที่การแข่งขันของโบรกเกอร์สูงขึ้น โดยชี้ให้เห็นว่าเงินคืนจากค่า Spread และ Commission สามารถลดต้นทุนการเทรดได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เทรดถี่หรือใช้ EA ซึ่งมีปริมาณการเทรดสูง ระบบ Cashback ทำงานผ่านการคืนส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมต่อจำนวนล็อตที่เทรด ทำให้เทรดเดอร์ได้รับผลประโยชน์ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน พร้อมวิเคราะห์ข้อดี ข้อควรระวัง วิธีเลือกผู้ให้บริการที่ปลอดภัย และแนวทางใช้ Cashback ให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด โดยสรุปแล้ว Forex Cashback เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดโดยไม่เพิ่มความเสี่ยง และเป็นโอกาสที่เทรดเดอร์ไม่ควรมองข้าม

ไทยติดอันดับ 1 ความเสียหายจากการฉ้อโกงในเอเชียแปซิฟิก นักเทรดเองก็เสี่ยงนะ
บทความนี้กล่าวถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในยุคดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะนักเทรด Forex ที่ต้องทำธุรกรรมออนไลน์เป็นประจำ ท่ามกลางภัยฉ้อโกงรูปแบบใหม่ที่พัฒนาด้วย AI เช่น ข้อความปลอม ลิงก์ปลอม และการหลอกให้กดยืนยันธุรกรรมเอง ซึ่งเป็นสาเหตุความเสียหายมหาศาลในประเทศไทย ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าจุดอ่อนสำคัญคือ “ผู้ใช้” ไม่ใช่ระบบ จึงเน้นย้ำว่านักเทรดต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูล การตรวจสอบความถูกต้องของช่องทางต่าง ๆ และตระหนักว่าในโลกออนไลน์ ความอยู่รอดสำคัญไม่แพ้ความสามารถในการเทรด.

ไม่รู้ไม่ได้! 5 ตัวเลือก Platform Trading ที่นักเทรดทุกคนต้องเช็ก
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Platform Trading สำหรับนักเทรด Forex ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการเปิด–ปิดออร์เดอร์ วิเคราะห์กราฟ และบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสรุปฟีเจอร์ที่แพลตฟอร์มที่ดีควรมี ประเภทของแพลตฟอร์มทั้งเชิงพาณิชย์และเฉพาะสถาบัน รวมถึงปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้งาน เช่น ฟีเจอร์ ค่าธรรมเนียม และความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ โดยยกตัวอย่างแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4/MT5, cTrader และ NinjaTrader เพื่อช่วยให้นักเทรดเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับกลยุทธ์และรูปแบบการเทรดของตนเอง.
