มือใหม่จดเลย ! การฝึกเทคนิคการเทรดแบบ SniperTrade

วันนี้แอดเหยี่ยวนำบทความดี ๆ จากคุณ Alice Veronica มาฝากกันอีกแล้ว โดยเนื้อหาในครั้งนี้คือเรื่อง “ การฝึก SniperTrade”

การฝึก Sniper พื้นฐาน จะมีการเลือก TradeSetup อยู่ 4 เเบบ

1.Build-Up Breakout หรือ หลาย ๆ คนเรียกจ่อ Breakout

2.Buy on Dip หรือหลายคนใช้เป็น Throw Back กับ Pullback

3.Reversal Pattern หรือการเทรดเเบบจุดกลับตัว

4.RSI Ovb เเละ Ovs หรืออีกชื่อ Impulse wave RSI

Sniper จัดอยู่ในประเภทของ DayTrade ซึ่งเหมาะสำหรับการหา Cash Flow หรือกระเเสเงินสด

คนที่เหมาะกับการเทรดแบบ DayTrade เนี่ยต้องมีสภาวะจิตใจที่ดีพอสมควร..ทำไมละแล้วภาวะจิตใจมันเกี่ยวอะไร？

คำตอบก็คือ..เพราะการเทรดแบบ DayTrade เราต้องอยู่กับความผันผวนของราคาตลาดตลอดเวลา ถ้าจิตใจไม่แข็งพอเวลาเทรดเสีย เราจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้ยาก บางคนไม่กล้าเข้าออเดอร์ บางคนอยากเอาคืน ทำให้เกิดการ OVT ซอยไม้เข้าออเดอร์ เติมเพิ่ม จนทำให้ความเสียหายหนักกว่าเดิม เพราะงั้น DayTrade ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ใจร้อนหรือยังฝึกไม่มากพอ

Build-Up Breakout

Build-Up Breakout จุดสังเกตของมันเลยคือ ราคาจะมีการพักตัว บีบตัวแคบ ๆ บริเวณแนวรับหรือแนวต้าน เพื่อสะสมแรง เมื่อราคาทะลุแนวรับและแนวต้าน ราคาจะพุ่งไปอย่างรุนแรง

Build-Up Breakout

จ่อ Breakout มักจะมาในรูปแบบของ Price Pattern อย่าง Ascending Triangle และ Descending Triangle

Ascending Triangle คือ รูปแบบของกราฟที่ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่จุดเดิมซ้ำ ๆ แต่แนวรับที่เป็นเทรนด์ไลน์จะเริ่มขยับราคาขึ้นมาเรื่อย ๆ ส่งผลให้กราฟเริ่มเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมก้ม ซึ่งกราฟมีโอกาสที่จะเกิดเทรนด์ขึ้นหรือเทรนด์ลงต่อ

Descending Triangle คือ รูปแบบของกราฟที่ลงมาทดสอบแนวรับที่จุดเดิมซ้ำ ๆ โดยที่แนวต้านที่เป็นเทรนด์ไลน์จะขยับลงมาเรื่อย ๆ ส่งผลให้กราฟเริ่มเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมมุมเงย ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดเทรนด์ขึ้นและลงต่อก็ได้

Descending Triangle

จุดสังเกตของ Descending Triangle คือ กราฟราคาจะค่อย ๆ ทำ High ที่ต่ำลงมาเรื่อย ๆ แต่ทำ Low ที่ใกล้เคียงกันจะออกมาเหมือนรูปสามเหลี่ยมมุมก้ม

พอกราฟทำ Low ที่ใกล้เคียงกันแล้วเนี่ย ในราคา 1706.21 เราจะเรียกแนวรับหรือเส้น Neckline

ในการเทรด Pattern นี้ เราต้องรอให้กราฟ Breakout แนวรับหรือเส้น Neckline ก่อน กราฟถึงจะเป็น Descending Triangle

ในรูปแบบของการเทรดนั้นจะมีอยู่ 2 แบบ คือ

1. รอให้กราฟ Breakout ลงมาก่อน เราถึงจะเข้าเทรด

2. เราจะรอกราฟย่อขึ้นมา Pullback แล้วค่อยเทรด

ในตัวอย่าง เราจะรอพิจารณาเข้า Sell ที่ราคา Pullback เพราะว่ากราฟ Breakout อย่างรุนแรง อาจจะเป็นจุดที่เสียเปรียบจึงรอกราฟย่อขึ้นมาเทส 1706.21 เพื่อทำ Pullback แล้วลงต่อ

Ascending Triangle

จุดสังเกตของ Ascending Triangle คือ กราฟราคาจะค่อย ๆ ทำ High ที่ใกล้เคียงกัน จะออกมาเหมือนรูปสามเหลี่ยมมุมเงย

พอกราฟทำ High ที่เท่ากันหรือใกล้เคียงกันแล้วเนี่ย เราจะเรียกแนวต้านตรงนั้นว่าเส้น Neckline

ในตัวอย่างกราฟยังพักตัวในกรอบ 3 เหลี่ยมอยู่ เราต้องรอให้กราฟ Breakout แนวต้านหรือเส้น Neckline ก่อนถึงจะเข้าเทรดได้

ในรูปแบบของการเทรดนั้น เราสามารถเข้าเทรด Buy เมื่อกราฟ Breakout ขึ้นมาได้เลย หรือในอีกกรณีคือรอให้กราฟย่อลงมาก่อนแล้วพิจารณาเข้าออเดอร์ Buy

Buy On Dip

Pullback & Throwback : Pullback เกิดหลังจากที่กราฟได้ Breakout แนวรับลงมาทำ Low แล้วย่อกลับขึ้นไป Retrace จุดที่ Breakout ลงมาแล้วไม่ผ่าน แล้วมีการกลับตัวลงมา จุดนี้เรียกว่า Pullback

ในส่วนของ Throwback จะเกิดหลังจากที่กราฟได้ Breakout แนวต้านขึ้นมาทำ High แล้วย่อกลับลงไป Retrace จุดที่ Breakout ขึ้นมาแล้วไม่ผ่าน แล้วมีการกลับตัวขึ้นต่อ

การย่อของกราฟแต่ละแบบ

ในตัวอย่าง Pullback

ในตัวอย่างกราฟได้ Breakot 1720.83 ซึ่งในจังหวะนี้อาจจะทำให้เราตกรถ จังหวะนี้เราจะรอกราฟย่อขึ้นมาเทส 1720.83 ก่อน เพื่อรอเข้าออเดอร์ Sell ที่ราคา 1720.83

หลังจากกราฟขึ้นมา Retrace ที่ 1720.83 ในจุดนี้เราจะรอเข้าพิจารณา Sell โซนราคา 1720.83

SL ควรตั้งห่างจากจุด Pullback 300-500 จุด

TP ควรตั้ง RRR 1:2-1:5 เพราะอย่างที่รู้กันดี เวลากราฟ Breakout กราฟมักจะไปแรง

ในตัวอย่างของ Throwback

ในตัวอย่างกราฟได้ Breakout 1.08123 ซึ่งในจังหวะนี้อาจทำให้เราตกรถ จังหวะนี้เราจะรอกราฟย่อลงมา Retrace ที่ 1.08123 ก่อน เพื่อรอเข้าออเดรอ์ Buy ที่โซนราคา 1.08123

หลังจากกราฟลงมา Retrace ที่ 1.08123 ในจุดนี้เราจะรอเข้าพิจารณา Buy โซนราคา 1.08123

SL ควรตั้งห่างจากจุด Throwback 300-500 จุด

TP ควรตั้ง RRR 1:2-1:5 เพราะอย่างที่รู้กันดี เวลากราฟ Breakout กราฟมักจะไปแรง

Reversal Pattern

จุดสังเกตการกลับตัวจากแนวโน้มขาขึ้น

1.กราฟราคาได้ Breakout ทะลุลงเส้นเทรนด์ไลน์

2.กราฟได้ทำ New Low หรือจุดต่ำสุดใหม่ Lower Low

3.กราฟราคาได้ย่อตัวขึ้นทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง Lower High

Case Study

จุดสังเกตของการเปลี่ยนเทรนด์ก่อนหน้านี้ กราฟราคาเป็นแนวโน้มขาลง และกราฟได้ Breakout เทรนด์ไลน์ขึ้นมาและราคาขึ้นไปทำ Higher High ทำให้เรารู้ว่ากราฟโอกาสที่ราคาจะกลับตัวเป็นเทรนด์ขาขึ้น ต่อไปเราจะรอดูว่ากราฟจะทำ Higher Low ไหม

หลังจากนั้น กราฟได้ย่อตัวลงมาทำ HL ทำให้กราฟมีโอกาสจะขึ้นต่อ

จุดที่สามารถเข้าออเดอร์ได้ คือ

1.กราฟขึ้นไปทำ HH และย่อลงมาชน เทรนด์ไลน์เราสามารถพิจารณา Buy ได้

2.จะเหมือนกันเลยคือกราฟย่อลงมาชนเทรนด์ไลน์ เราสามารถพิจารณา Buy ได้

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจากเพจ Alice Veronica, WarriorTrader

แอดเหยี่ยวหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และที่สำคัญก่อนที่จะเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม แอดอยากให้ศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง ถือว่าแอดเตือนแล้วนะ!!! อย่าลืมมาตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี !