简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
แพทเทิร์น Heikin-Ashi vs กราฟแท่งเทียนทั่วไป Candlestick ใช้เทรด Forex แบบไหนปังกว่ากัน
บทคัดย่อ:ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคแพทเทิร์น Heikin-Ashi และความแตกต่างระหว่าง กราฟแท่งเทียนทั่วไป

การมีเทคนิคที่หลากหลาย ก็เหมือนกับเรามีอาวุธที่หลากหลายเช่นกัน วันนี้แอดเหยี่ยวมีเทคนิคการดูกราฟนอกจากกราฟแท่งเทียนมาฝาก โดยกราฟแท่งเทียน ถือเป็นกราฟที่ได้รับความนิยมมาก แต่เราสามารถนำมาต่อยอดเป็นเทคนิค Heikin-Ashi เป็นอีกกนึ่งกลยุทธ์ ซึ่งอิงจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยเช่นกัน แต่มีความแตกต่างกันอย่างไร ตามแอดเหหยยี่ยวมาเลยครับ
แพทเทิร์น Heikin-Ashi คืออะไร?
คำว่า“Heikin-Ashi ” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “แถบค่าเฉลี่ย” ซึ่งมีการใช้ในลักษณะเดียวกับแท่งเทียนแบบดั้งเดิม โดยข้อดีคือสามารถสร้างกราฟ Forex ที่ซับซ้อนให้ใช้งานง่ายขึ้น สามารถวิจัยและวิเคราะห์แนวโน้มตลาดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เหมาะกับนักเทรดมือใหม่สุดๆ แอดเหยี่ยวขอแนะนำ
นอกจากนี้แพทเทิร์น Heikin-Ashi จะช่วยลดสัญญาณรบกวนในการเทรดได้ดี สามารถแยกแยะสัญญาณจริง สัญญาณหลอก รวมถึงสัญญาณที่มีโอกาสทำกำไรได้เร็วกว่าอีกด้วย
Heikin-Ashi กับ กราฟแท่งเทียน ต่างกันอย่างไร?
กราฟทั้ง 2 เทคนิคมี ลักษณะคล้ายกันหากดูด้วยตาเปล่า แต่แพทเทิร์น Heikin-Ashi จะแบบแท่งเทียนจะมีความสมูทมากกว่า Heikin-Ashi จะใช้สูตรที่มีการดัดแปลงจากกราฟแท่งเทียนทั่วไปซึ่งช่วยสร้างแนวโน้มภาพที่ชัดเจนอ่าน และจดจำได้ง่ายกว่ามาก นักเทรดสามารถระบุแนวโน้มบนกราฟได้ง่าย โดยหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวนของตลาด:
ขาขึ้น (Uptrend) แท่งเทียนเป็นสีเขียว
ขาลง (Downtrend) แท่งเทียนเป็นสีแดง
นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างกัน ตรงส่วนของราคาสินทรัพย์แต่ละตัวในแพทเทิร์น Heikin-Ashi เนื่องจากกราฟแท่งเทียนส่วนใหญ่มักจะอิงตามราคาปิด ขณะที่ Heikin-Ashi จะฟอร์มตัวโดยใช้ราคาเฉลี่ย
การเทรดด้วยแพทเทิร์น Heikin-Ashi
การเทรดด้วยแพทเทิร์น Heikin-Ashi คือตัวเลือกที่เหมาะสมกับ นักเทรดที่ต้องการวิธีเทรดที่ง่ายยิ่งกว่าเดิม โดยมีวิธีการดังนี้:
แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ที่แข็งแกร่งจะปรากฎในรูปแบบกราฟแท่งเทียนสีเขียวที่มีไส้เทียนล่างเป็นศูนย์ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าเทรดเดอร์ควรปิดคำสั่งขาย (Short) และเปิดคำสั่งซื้อ (Long) แทน
แท่งเทียนเล็กๆ จะบ่งบอกการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มโดยมีไส้เทียนอยู่ทั้งด้านบนและด้านล่างของแท่งเทียน แพทเทิร์นนี้เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Forex แบบดั้งเดิม เนื่องจากสามารถยืนยันสัญญาณก่อนเปิดคำสั่งซื้อขายในระหว่างการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
แท่งเทียนสีแดงจะบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง ซึ่งเป็นสัญญาณให้ปิดออเดอร์ซื้อ (Long) หรือเปิดออเดอร์ขาย (Short) ทั้งนี้ หากท่านเห็นแท่งเทียนสีแดงที่ไม่มีไส้เทียนด้านบน แสดงว่า
แพทเทิร์น Heikin-Ashi ใช้เพื่อบ่งชี้แนวโน้มและความแข็งแกร่ง ตลอดจนหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวนของตลาด อย่างไรก็ตาม มันอาจไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่อาศัยความถี่สูง หรือนักเทรด Scalper เพราะมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ข้อมูลราคาที่ไม่ถูกต้องและช่องว่างราคาที่ขาดหายไป
ขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก mtrading
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินในลงทุน
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

Copy Trade คือทางลัดหรือกับดัก? ถ้าสนใจแต่ยังไม่แน่ใจต้องอ่าน
Forex Copy Trade เป็นระบบที่เปิดโอกาสให้นักลงทุน โดยเฉพาะมือใหม่ สามารถคัดลอกการเทรดของผู้เชี่ยวชาญแบบอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการวิเคราะห์ตลาด แต่แม้จะมีข้อดี เช่น ใช้งานง่าย เลือกความเสี่ยงได้ และเรียนรู้จากนักเทรดมืออาชีพ ระบบนี้ก็มาพร้อมความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ผลงานในอดีตไม่การันตีอนาคต ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมออเดอร์เอง และความเสี่ยงจากการบริหารเงินทุนของนักเทรดที่เลือก ดังนั้น การเลือกนักเทรดที่มีประวัติยาว การบริหารความเสี่ยงดี และผลลัพธ์สม่ำเสมอ ถือเป็นปัจจัยหลักในการใช้ Copy Trade ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ระยะยาว

เทรดเยอะได้คืนเยอะ! ความจริงเกี่ยวกับระบบ Forex Cashback ที่หลายคนยังไม่รู้
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Forex Cashback ในยุคที่การแข่งขันของโบรกเกอร์สูงขึ้น โดยชี้ให้เห็นว่าเงินคืนจากค่า Spread และ Commission สามารถลดต้นทุนการเทรดได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เทรดถี่หรือใช้ EA ซึ่งมีปริมาณการเทรดสูง ระบบ Cashback ทำงานผ่านการคืนส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมต่อจำนวนล็อตที่เทรด ทำให้เทรดเดอร์ได้รับผลประโยชน์ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน พร้อมวิเคราะห์ข้อดี ข้อควรระวัง วิธีเลือกผู้ให้บริการที่ปลอดภัย และแนวทางใช้ Cashback ให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด โดยสรุปแล้ว Forex Cashback เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดโดยไม่เพิ่มความเสี่ยง และเป็นโอกาสที่เทรดเดอร์ไม่ควรมองข้าม

ไทยติดอันดับ 1 ความเสียหายจากการฉ้อโกงในเอเชียแปซิฟิก นักเทรดเองก็เสี่ยงนะ
บทความนี้กล่าวถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในยุคดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะนักเทรด Forex ที่ต้องทำธุรกรรมออนไลน์เป็นประจำ ท่ามกลางภัยฉ้อโกงรูปแบบใหม่ที่พัฒนาด้วย AI เช่น ข้อความปลอม ลิงก์ปลอม และการหลอกให้กดยืนยันธุรกรรมเอง ซึ่งเป็นสาเหตุความเสียหายมหาศาลในประเทศไทย ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าจุดอ่อนสำคัญคือ “ผู้ใช้” ไม่ใช่ระบบ จึงเน้นย้ำว่านักเทรดต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูล การตรวจสอบความถูกต้องของช่องทางต่าง ๆ และตระหนักว่าในโลกออนไลน์ ความอยู่รอดสำคัญไม่แพ้ความสามารถในการเทรด.

ไม่รู้ไม่ได้! 5 ตัวเลือก Platform Trading ที่นักเทรดทุกคนต้องเช็ก
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Platform Trading สำหรับนักเทรด Forex ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการเปิด–ปิดออร์เดอร์ วิเคราะห์กราฟ และบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสรุปฟีเจอร์ที่แพลตฟอร์มที่ดีควรมี ประเภทของแพลตฟอร์มทั้งเชิงพาณิชย์และเฉพาะสถาบัน รวมถึงปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้งาน เช่น ฟีเจอร์ ค่าธรรมเนียม และความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ โดยยกตัวอย่างแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4/MT5, cTrader และ NinjaTrader เพื่อช่วยให้นักเทรดเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับกลยุทธ์และรูปแบบการเทรดของตนเอง.
WikiFX โบรกเกอร์
Vantage
fpmarkets
VT Markets
D prime
Exness
Ultima
Vantage
fpmarkets
VT Markets
D prime
Exness
Ultima
WikiFX โบรกเกอร์
Vantage
fpmarkets
VT Markets
D prime
Exness
Ultima
Vantage
fpmarkets
VT Markets
D prime
Exness
Ultima
