简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
เฟดปักธงเพิ่มความเสี่ยงที่ไม่ใช่ธนาคารต่อระบบการเงินของสหรัฐฯ
บทคัดย่อ:เฟดปักธงเพิ่มความเสี่ยงที่ไม่ใช่ธนาคารต่อระบบการเงินของสหรัฐฯ

ธนาคารกลางสหรัฐระบุว่าสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารกําลังนําเสนอความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อเสถียรภาพของธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐ ตามโพสต์ใหม่ในบล็อก Liberty Street Economics ของ Fed ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีหน่วยงานที่ไม่ใช่ธนาคารเหล่านี้พึ่งพาธนาคารขนาดใหญ่มากขึ้นสําหรับสภาพคล่องในช่วงที่ตลาดตึงเครียดซึ่งอาจนําไปสู่การหยุดชะงักของตลาดอย่างมีนัยสําคัญ
.
โพสต์ให้รายละเอียดว่านอนแบงก์ซึ่งอยู่ภายใต้กฎระเบียบและการกํากับดูแลที่เข้มงวดน้อยกว่าสถาบันการเงินขนาดใหญ่มีความเชื่อมโยงกับธนาคารมากขึ้นอย่างไร ความสัมพันธ์นี้ได้เปลี่ยนแนวความเสี่ยง โดยปัญหาที่อาจเกิดขึ้นครั้งหนึ่งเคยจํากัดอยู่ที่ธนาคาร ซึ่งขณะนี้มีการแบ่งปันระหว่างหน่วยงานทางการเงินทั้งสองประเภท
.
เฟดเน้นย้ําว่าความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงจากธนาคารและที่ไม่ใช่ธนาคารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากประมาณ 65% ก่อนวิกฤตการเงินปี 2008 เป็นมากกว่า 80% ในปัจจุบัน นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ (CRE) อาจเป็นภาคส่วนที่ความเสี่ยงของการเชื่อมต่อโครงข่ายนี้ชัดเจนเป็นพิเศษ ด้วยหนึ่งในห้าหรือ 929 พันล้านดอลลาร์จากการจํานองเชิงพาณิชย์คงค้าง 4.7 ล้านล้านดอลลาร์ที่จะครบกําหนดในปี 2024 ตลาดต้องเผชิญกับ 'กําแพงครบกําหนด' ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของตําแหน่งงานว่างที่เพิ่มขึ้นมูลค่าทรัพย์สินที่ลดลงและอัตราดอกเบี้ยที่สูงอย่างต่อเนื่อง
.
ผลการวิจัยของเฟดเน้นย้ําถึงความสําคัญของกฎระเบียบทางการเงินที่ครอบคลุมและการตรวจสอบความเสี่ยงอย่างเป็นระบบที่คํานึงถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างธนาคารและนอนแบงก์ โพสต์ชี้ให้เห็นว่าศักยภาพของการกระแทกจะถูกส่งและขยายผ่านการเชื่อมต่อเหล่านี้อาจจําเป็นต้องมีการแทรกแซงอย่างกว้างขวางจากเจ้าหน้าที่
.
สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งแตกต่างจากการจํานองที่อยู่อาศัย เป็นที่ทราบกันดีว่าครบกําหนดที่สั้นกว่าและการชําระเงินแบบบอลลูนที่มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยในโปรไฟล์ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นซึ่งเฟดกล่าวถึง การวิเคราะห์ของธนาคารกลางเน้นย้ําถึงความจําเป็นในการใช้แนวทางการกํากับดูแลที่คํานึงถึงลักษณะที่เกี่ยวพันกันของภาคการธนาคารและสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร
ขอบคุณข้อมูลจาก Investment
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

อยากเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว แต่ก่อนจะลาออกชาวออฟฟิศต้องทำสิ่งนี้!!
ก่อนจะลาออกจากงานประจำเพื่อเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมความพร้อมทางการเงินและเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อให้สามารถรับมือความเสี่ยงในตลาดได้อย่างมั่นใจ สิ่งที่ควรทำได้แก่ การเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน 6–12 เดือน ใช้สิทธิ์ประกันสังคมและเงินชดเชยว่างงาน จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างเหมาะสม ขอคืนเงินประกันการทำงาน และเก็บเอกสารสำคัญจากนายจ้างให้ครบ การเตรียมตัวเหล่านี้ช่วยให้การก้าวสู่ชีวิตเทรดเดอร์เต็มเวลาราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น

"ค่า Spread คือดาบสองคม"สิ่งที่มือใหม่ต้องระวังก่อนเทรดจริง
บทความนี้อธิบายความสำคัญของค่า Spread ซึ่งเป็นต้นทุนแฝงที่นักเทรดต้องจ่ายทุกครั้งที่เปิดออเดอร์ในตลาด Forex แม้จะเป็นตัวเลขเล็ก ๆ แต่มีผลโดยตรงต่อกำไร โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้กลยุทธ์ที่ต้องเปิด–ปิดออเดอร์บ่อยอย่าง Scalping หรือ Day Trading ค่า Spread ที่สูงสามารถลดทอนผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญ นักเทรดมือใหม่จึงควรให้ความสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread ต่ำ ระวังช่วงตลาดผันผวนที่ Spread อาจขยายตัว และนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้มาคำนวณรวมในระบบบริหารความเสี่ยง บทความสรุปว่า การเข้าใจและจัดการ Spread อย่างถูกต้องจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการเทรด และเสริมความมั่นใจในการทำกำไรในตลาด Forex

ฟอเร็กซ์ vs หุ้น ความเสี่ยงตัวไหนแรงกว่า? เจาะลึกด้วยหลัก Money Management
บทความนี้อธิบายความเสี่ยงของการลงทุนในตลาด Forex และตลาดหุ้น โดยชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงไม่ได้เกิดจากตัวตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการใช้ Leverage การบริหารเงิน และวินัยของเทรดเดอร์เป็นหลัก Forex ถูกจัดว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากความผันผวนรวดเร็วและ Leverage สูง ขณะที่หุ้นมีความผันผวนต่ำกว่าและควบคุมความเสี่ยงได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม หากมีระบบ Money Management ที่ดี Forex ก็สามารถลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสได้เช่นกัน สรุปคือ การเลือกตลาดควรพิจารณาจากสไตล์และวินัยของผู้ลงทุนมากกว่าตัวตลาดเอง.

เช็กปฏิทินข่าวสำคัญประจําสัปดาห์! มีเหตุการณ์อะไรน่าติดตามบ้าง
ปฏิทินข่าว Forex และเหตุการณ์สำคัญประจําสัปดาห์
