简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ใช้กลยุทธ์ Demand Supply Zone ทำกำไรในตลาด Forex
บทคัดย่อ:หลักการโดยทั่วไปของ Demand และ Supply Zone คล้ายกับการวิเคราะห์กราฟด้วยแนวรับและแนวต้าน ซึ่งเราได้เคยอธิบายไปแล้วในบทความเรื่อง "แนวรับ แนวต้านคืออะไร" แต่ความแตกต่างระหว่าง Demand Supply Zone กับแนวรับแนวต้านก็คือปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่แตกต่างกันในแต่ละโซน

ในบทความนี้ แอดเหยี่ยวจะมาอธิบายวิธีการใช้อุปสงค์และอุปทานในการรับรายการ SNIPER สำหรับการเทรดในตลาด Forex ถึงแม้ว่ากลยุทธ์นี้จะดูเรียบง่าย แต่หลายคนกลับทำให้มันซับซ้อนโดยไม่จำเป็น ดังนั้น แอดเหยี่ยวจึงต้องการอธิบายวิธีการค้นหาโซนอุปสงค์และอุปทานอย่างชัดเจน พร้อมทั้งวิธีการสร้างรายการเทรดที่สมบูรณ์แบบจากโซนเหล่านี้ การเข้าใจโซนอุปสงค์และอุปทาน และลักษณะของมัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก มาเริ่มกันเลย!
Demand Supply Zone คืออะไร?
หลักการโดยทั่วไปของ Demand และ Supply Zone คล้ายกับการวิเคราะห์กราฟด้วยแนวรับและแนวต้าน ซึ่งเราได้เคยอธิบายไปแล้วในบทความเรื่อง “แนวรับ แนวต้านคืออะไร” แต่ความแตกต่างระหว่าง Demand Supply Zone กับแนวรับแนวต้านก็คือปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่แตกต่างกันในแต่ละโซน
Supply Zone คือโซนที่ราคาขึ้นมาถึงแล้วจะถูกแรงขายต้านไว้ โซนนี้มักจะอยู่เหนือกราฟราคา เป็นพื้นที่ที่มีแรงขายเยอะ ซึ่งหลักการก็คล้ายกับแนวต้าน แต่มีความแตกต่างในเรื่องของปริมาณและความเข้มข้นของแรงขาย
Demand Zone คือโซนที่อยู่ด้านล่างของกราฟราคา เมื่อราคาลงมาถึงจุดนี้ จะมีแรงซื้อเข้ามาช่วยดันราคาให้เด้งกลับขึ้นไป เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเปิดคำสั่งซื้อ (Order Buy) เนื่องจากเราสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาน่าจะปรับตัวขึ้น ซึ่งหลักการนี้คล้ายกับแนวรับ แต่ก็มีความแตกต่างเช่นกันในด้านปริมาณและพฤติกรรมการซื้อขาย
วิธีสังเกตว่าเป็น Supply หรือ Demand Zone
เรามาดูกันว่าอะไรที่ทำให้ Demand และ Supply Zone แตกต่างจากแนวรับและแนวต้าน ซึ่งสามารถสังเกตได้จากแท่งเทียน หากแท่งเทียนแสดงโมเมนตัมที่ชัดเจนในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เช่น ในกรณีที่แนวโน้มเป็นขาขึ้น และมีแท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่ต่อเนื่องกันสามแท่งขึ้นไป แสดงว่ามีแรงซื้อเข้ามามาก โดยมักจะมาจากการซื้อของกองทุนหรือสถาบันขนาดใหญ่ ซึ่งส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เราสามารถสันนิษฐานได้ว่า จุดฐานหรือจุดที่ราคาดีดตัวขึ้นนี้คือ Demand Zone
วิธีการระบุ Demand หรือ Supply Zone คือ ให้สังเกตแท่งเทียนก่อนหน้าที่เกิดแท่งเทียนขนาดยาว จากนั้นวัดจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของแท่งเทียนก่อนหน้านี้ โดยกำหนดให้บริเวณนี้เป็นโซน
วิธีใช้ประโยชน์จาก Demand และ Supply Zone เพื่อทำกำไรในตลาด Forex
การใช้ประโยชน์จาก Demand และ Supply Zone นั้น หากเป็น Supply Zone จะถูกกำหนดให้เป็นแนวต้าน เมื่อราคาปรับตัวลงมาถึงโซนนี้ ในช่วงแรกยังไม่ควรเปิดออเดอร์ จนกระทั่งราคาปรับตัวขึ้นมาทดสอบ Supply Zone จึงค่อยเตรียมเปิดคำสั่งขาย (Order Sell) อย่างไรก็ตาม ต้องระวังว่าราคาอาจทะลุ Supply Zone ได้เช่นกัน
ในกรณีของ Demand Zone สามารถคาดการณ์เบื้องต้นได้ว่า หากราคาลงมาถึง Demand Zone มีโอกาสที่ราคาจะดีดตัวกลับขึ้น แต่ก็ควรสังเกตด้วยว่าราคาจะทะลุ Demand Zone ลงไปหรือไม่ก่อนการเปิดคำสั่งซื้อ (Order Buy)
หลังจากที่พูดถึงการเข้าออเดอร์แล้ว เราจะพูดถึงการออกจากออเดอร์ ซึ่งมีสองวิธีหลักคือการใช้ Stop Loss (ออกเมื่อขาดทุน) และ Take Profit (ออกเมื่อทำกำไร) โดยแนวทางคือ:
หากเปิดคำสั่งซื้อ (Order Buy) ที่ Demand Zone เพราะคาดว่าราคาจะปรับตัวขึ้น ควรตั้ง Stop Loss ไว้หลัง Demand Zone และตั้ง Take Profit ที่ระยะเท่ากับ Stop Loss หรือใช้สัดส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (RR) ที่ 1:1
เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์กราฟด้วย Demand Supply Zone
ในการวิเคราะห์กราฟโดยใช้ Demand และ Supply Zone มีเครื่องมือที่ช่วยให้การวิเคราะห์มีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นคือ Fibonacci ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มของกราฟได้อย่างดี Bravo Trade Academy ยังมีคอร์สเรียนเกี่ยวกับ Fibonacci ที่จะช่วยให้เข้าใจและใช้งานเครื่องมือนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
บทสรุป
การวิเคราะห์กราฟด้วยปัจจัยทางเทคนิค ไม่มีกลยุทธ์ใดที่ถูกต้องหรือสมบูรณ์แบบ 100% การวิเคราะห์ Demand และ Supply Zone อาจมีวิธีที่หลากหลายขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากวิธีใดที่คุณลองใช้แล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี คุณก็สามารถนำวิธีนั้นไปใช้อย่างต่อเนื่องได้เช่นกัน สำหรับบทความนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สามารถนำไปปรับใช้ในการเทรดได้
ของคุณข้อมูลจาก The Trading Geek
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

คณะกรรมการตัดสินรางวัล Voices of the Golden Insight Award | จอร์จ จอร์จิอู
คณะกรรมการตัดสินรางวัล Voices of the Golden Insight Award | จอร์จ จอร์จิอู ผู้ก่อตั้งร่วมและกรรมการผู้จัดการของ Dynamic Works

จับเวลาไม่แม่น = พังแน่! เคล็ดลับเทรดฟอเร็กซ์ ตามเวลาให้รอด
แม้ตลาด Forex จะเปิดทำการ 24 ชั่วโมงต่อวัน แต่ช่วงเวลาแต่ละเซสชันมีผลต่อความผันผวนและสภาพคล่องอย่างมาก การเข้าออเดอร์ในเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดสลิปเพจหรือพลาดโอกาสทำกำไร บทความนี้อธิบายเวลาทำการหลักของตลาด Forex ได้แก่ Tokyo, London, New York และ Sydney พร้อมแนะนำช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง เทคนิคปรับกลยุทธ์ตามเซสชัน และข้อควรระวังสำหรับนักเทรดมือใหม่ การเข้าใจเวลาตลาดเป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสสร้างกำไรอย่างยั่งยืน

นักเทรดมือใหม่ระวัง! เทรนด์ตลาดไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ถ้าไม่รู้จักต้องอ่าน
เทรนด์ในตลาด Forex คือทิศทางโดยรวมของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมของผู้เล่นในตลาด การเข้าใจเทรนด์เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับนักเทรด เพราะช่วยลดความเสี่ยง เลือกจังหวะเข้าตลาดอย่างมีเหตุผล และสร้างกำไรอย่างต่อเนื่อง บทความนี้อธิบายประเภทเทรนด์ ได้แก่ ขาขึ้น ขาลง และด้านข้าง พร้อมแนวทางสังเกตเทรนด์ด้วยเครื่องมือ เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ แนวรับ–แนวต้าน อินดิเคเตอร์ และการวิเคราะห์หลายกรอบเวลา การเข้าใจเทรนด์จึงเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินใจอย่างมีวินัยและประสิทธิภาพในตลาด Forex

สัญญาณเตือนจาก Vitalik 2 ภัยคุกคามที่อาจทำให้ Ethereum ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ในงาน Devconnect Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เตือนว่าการถือครอง ETH ของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ เช่น BlackRock อาจสร้างสองภัยคุกคามต่อเครือข่าย ได้แก่ การสูญเสียอุดมการณ์ Ethereum และการรวมศูนย์ระบบมากเกินไป สิ่งนี้อาจทำให้นักพัฒนาหลักถอนตัว และระบบเปิดที่ทุกคนเข้าถึงได้เสื่อมค่า Vitalik จึงเน้นว่าชุมชนต้องยืนหยัดในคุณค่าหลักของ Ethereum เพื่อรักษาความเป็นระบบเปิดและโปรโตคอลที่ทุกคนมีส่วนร่วม การเข้าใจเจตนาของเขาจึงช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพใหญ่และประเมินอนาคตของ Ethereum ได้ชัดเจนขึ้น
