简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
จากฟาร์มวัวสู่วอลสตรีท! นี้คือเรื่องราวของ Mark D. Cook ตำนานนักเทรดสายลุย
บทคัดย่อ:Mark D. Cook คือหนึ่งในตำนานนักเทรดที่เปลี่ยนชีวิตจากหนี้สินกว่า 800,000 ดอลลาร์ สู่การสร้างผลตอบแทนระดับโลก เขาโดดเด่นด้วยการคิดค้นระบบเทรดของตัวเองอย่าง Cumulative Tick และคว้าแชมป์การแข่งขันเทรดด้วยกำไร 563% เรื่องราวของเขาคือบทพิสูจน์ว่า วินัย ความพยายาม และการไม่ยอมแพ้ คือหัวใจของความสำเร็จในการลงทุน.

เรื่องราวของ Mark D. Cook นักเทรดผู้พลิกชีวิตจากหนี้สินมหาศาลสู่การสร้างผลตอบแทนระดับตำนาน
ในโลกของการลงทุน มีนักเทรดเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนวิกฤตครั้งใหญ่ในชีวิตให้กลายเป็นจุดพลิกผันสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ หนึ่งในบุคคลที่ถูกยกให้เป็นตำนานของวงการวอลสตรีทคือ Mark D. Cook ชายผู้เริ่มต้นจากชีวิตเรียบง่ายในฟาร์มเลี้ยงวัว รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา
ด้วยเงินก้อนแรกจากการขายวัวจำนวน 20,000 ดอลลาร์ เขาก้าวเข้าสู่สนามการเทรดอย่างจริงจัง และแม้จะเคยล้มเหลวอย่างหนักจนเป็นหนี้ถึง 800,000 ดอลลาร์ แต่เขาก็สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาสร้างชื่อเสียงในระดับโลก ด้วยผลงานการเทรดที่ทำกำไรระดับหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน “พ่อมดวอลสตรีท” อย่างแท้จริง
จุดเริ่มต้นของนักเทรดที่ไม่ธรรมดา
Mark D. Cook เกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคม 1954 ในครอบครัวเกษตรกร เขาเรียนจบปริญญาตรีด้านธุรกิจและเกษตรกรรมจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตตในปี 1976 ก่อนจะเริ่มต้นเส้นทางในวงการการเงินด้วยการทำงานเป็นนายหน้าซื้อขายหุ้น
หุ้นตัวแรกที่เขาลงทุนคือ Columbia Pictures เพราะเชื่อมั่นในความสำเร็จของภาพยนตร์ Close Encounters of the Third Kind ที่เพิ่งเข้าฉายในเวลานั้น ต่อมาในปี 1978 เขาหันมาศึกษาและเริ่มเทรด ออปชัน (Options) ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เขาใช้สร้างชื่อในภายหลัง
กลยุทธ์ที่ใช้สร้างผลตอบแทน
ในช่วงแรก Mark ใช้กลยุทธ์การ ขายออปชันแบบ Out-of-the-money โดยมองหาจังหวะที่ค่าพรีเมียมของออปชันสูง เพื่อสร้างรายได้จากค่าพรีเมียมดังกล่าว กลยุทธ์นี้ประสบความสำเร็จในช่วงแรก และทำให้เขามีความมั่นใจในทักษะการเทรดของตนเอง
อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึงในปี 1982 เมื่อเขาขาย Naked Call Options โดยไม่มีหุ้นรองรับบนหุ้น Cities Service ซึ่งต่อมากลายเป็นเป้าหมายการเทกโอเวอร์ ราคาหุ้นจึงพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้เขาขาดทุนมหาศาล จากเงินในบัญชีที่มีอยู่ 165,000 ดอลลาร์ กลายเป็นติดลบ 350,000 ดอลลาร์ และเมื่อรวมบัญชีที่เขาดูแลให้ครอบครัว ยอดขาดทุนรวมสูงถึง 815,000 ดอลลาร์
ฟื้นตัวด้วยระบบที่คิดค้นเอง
แม้จะประสบความล้มเหลวอย่างรุนแรง แต่ Mark ไม่ยอมแพ้ เขาทำงานในฟาร์มและเป็นโบรกเกอร์ควบคู่กัน เพื่อใช้หนี้ และใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาทักษะและความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง
ในปี 1986 เขาได้พัฒนาอินดิเคเตอร์ชื่อ Cumulative Tick ซึ่งใช้วิเคราะห์ความสมดุลระหว่างแรงซื้อและแรงขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยเขาใช้มันร่วมกับการสังเกตความผันผวนของตลาด เพื่อหาจังหวะเข้าซื้อ Call Options ที่มีพรีเมียมต่ำ
กลยุทธ์นี้ได้ผลอย่างมาก ในปี 1987 เขานำเงิน 55,000 ดอลลาร์ ไปลงทุนใน Call Options และปิดสถานะด้วยกำไรถึง 1.4 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำเขากลับคืนสู่เส้นทางของการเป็นนักเทรดมืออาชีพ
สู่แชมป์การเทรดระดับประเทศ
Mark เข้าร่วมการแข่งขัน U.S. Investing Championship หลายครั้ง ซึ่งเป็นการแข่งขันเทรดด้วยเงินจริง มีการตรวจสอบผลอย่างเข้มงวด
ในปี 1989 เขาทำผลตอบแทน 89% ภายในระยะเวลา 4 เดือน
และในปี 1992 เขาชนะการแข่งขันแบบเต็มปีด้วยผลตอบแทน 563% ซึ่งกลายเป็นสถิติสูงสุดของการแข่งขันในขณะนั้น
หลักคิดและคำแนะนำที่ยังใช้ได้เสมอ
Mark Cook มองว่าการเทรดควรเป็น “อาชีพ” ไม่ใช่แค่งานอดิเรก และเขามักแนะนำให้นักลงทุนตั้งคำถามกับตัวเองก่อนเข้าสู่ตลาด เช่น
- จะเทรดในสินทรัพย์ประเภทใด?
- เงินทุนที่มีสามารถรองรับการขาดทุนได้แค่ไหน?
- เป้าหมายผลตอบแทนคืออะไร?
- จะรับมืออย่างไรเมื่อสภาวะส่วนตัวกระทบกับการเทรด?
- วิธีการวิเคราะห์ตลาดที่ใช้อยู่มีประสิทธิภาพแค่ไหน?
เขาเชื่อว่า ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคหรือความรู้สึก แต่เป็นผลลัพธ์ของวินัย การเตรียมตัว และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
จากไป แต่ไม่จางหาย
Mark D. Cook เสียชีวิตอย่างสงบในวันที่ 27 ตุลาคม 2021 ขณะอายุ 67 ปี แม้ตัวเขาจะจากไป แต่ชื่อของเขายังคงเป็นที่จดจำของนักลงทุนรุ่นใหม่ ผ่านหนังสือคลาสสิกอย่าง Stock Market Wizards ของ Jack Schwager
เรื่องราวของเขาเป็นบทพิสูจน์ว่า
จุดเริ่มต้นที่ธรรมดาไม่ได้จำกัดโอกาสของใคร
และความล้มเหลวไม่ได้หมายถึงจุดจบ หากเราไม่หยุดพัฒนาและไม่ยอมแพ้
หากคุณกำลังอยู่ในช่วงท้อแท้จากตลาด อย่าเพิ่งวางมือ เพราะบางครั้ง การล้มครั้งใหญ่ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จครั้งสำคัญ เหมือนที่ Mark D. Cook เคยผ่านมาแล้วด้วยตัวเอง
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

อยากเทรดให้เก่ง? เริ่มจากสร้าง “ระบบเทรด” ที่พิสูจน์แล้วว่าทำงานจริง
การเทรด Forex ต้องอาศัยความรู้และระบบการเรียนรู้ที่มีแบบแผน ไม่ใช่เพียงการกดออเดอร์หรือหวังพึ่งโชค การศึกษาการเทรดอย่างเป็นระบบ—ทั้งกลยุทธ์ การบริหารเงินทุน ความเสี่ยง และจิตวิทยา—ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจอย่างมีวินัย ลดอารมณ์ และเข้าใจตลาดได้ลึกขึ้น การฝึกด้วยบัญชีทดลอง การตั้งเป้าหมาย การทบทวนผลการเทรด และการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญล้วนเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยสร้างพื้นฐานสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ ความสำเร็จในตลาด Forex เกิดจากการฝึกฝนต่อเนื่องและวินัย ไม่ใช่ความรวดเร็วหรือการเสี่ยงโดยไร้แผน.

Psychology of Trading จุดอ่อนทางอารมณ์ที่ทำให้เทรดเดอร์พลาดในทุกจังหวะตลาด
บทความนี้อธิบายความแตกต่างระหว่าง ตลาดกระทิง และ ตลาดหมี พร้อมชี้ให้เห็นว่าแก่นสำคัญของการอยู่รอดในตลาด Forex ไม่ใช่ทิศทางของราคา แต่คือ จิตวิทยาและวินัยของเทรดเดอร์ ตลาดกระทิงมักสร้างความมั่นใจและความโลภ ขณะที่ตลาดหมีทำให้เกิดความกลัวและการขายแบบตื่นตระหนก ความผิดพลาดส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมมนุษย์ ไม่ใช่สภาพตลาด เทคนิคสำคัญเพื่ออยู่รอดคือ การอ่านแนวโน้มหลัก ตั้งกฎการเทรดที่ชัดเจน ใช้ Stop Loss อย่างมีวินัย และควบคุมอารมณ์ให้มั่นคง บทความสรุปว่า การเข้าใจทั้งตลาดและเข้าใจตัวเองคือกุญแจสู่การเติบโตของพอร์ตอย่างยั่งยืน

กิจกรรมร่วมสนุกและลุ้นรับรางวัล! SkyLine Guide ประเทศไทย 25 โบรกเกอร์ชั้นนำมาแล้ว!
WikiFX ได้ประกาศรายชื่อโบรกเกอร์ 25 อันดับใน “SkyLine Guide Thailand 2025” ซึ่งจัดอันดับจากการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ 100 คน ครอบคลุมด้านกฎระเบียบ ความเหมาะสมต่อผู้ใช้ ผลการดำเนินงาน และอิทธิพลในประเทศ ขณะนี้เปิดให้เทรดเดอร์ร่วมแสดงความคิดเห็นว่าโบรกเกอร์เหล่านี้สมควรติดอันดับหรือไม่ พร้อมแชร์ประสบการณ์จริงหรือแนะนำโบรกเกอร์ที่ถูกมองข้าม ผู้เข้าร่วมที่โพสต์พร้อมแฮชแท็ก #SkyLineTop25DeservedOrNot มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลและเข้าร่วมกิจกรรมภายในคอมมูนิตี้ เป้าหมายคือสร้างข้อมูลที่โปร่งใสและช่วยให้เทรดเดอร์เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้มากขึ้น หากต้องการเวอร์ชันสั้นกว่านี้ แจ้งได้เลย!

มือใหม่ห้ามพลาด! RSI ฉบับเข้าใจง่าย สามารภใช้จริงในสนามเทรดได้
บทความอธิบายการใช้ Indicator RSI ในการวิเคราะห์โมเมนตัมของราคา พร้อมชี้ให้เห็นข้อสำคัญว่าแม้ RSI จะเข้าเขต Overbought/Oversold ก็ไม่ได้หมายความว่าราคาจะกลับตัวทันที จึงควรใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ได้แก่ MACD สำหรับยืนยันโมเมนตัมและหา Divergence, การตัดกันของ EMA เพื่อดูจุดกลับตัว, การใช้ Smoothed RSI ลดสัญญาณหลอก, การดู RSI หลาย Timeframe เพื่อเทรดตามแนวโน้มใหญ่ และการผสานกับระบบ Pivotal Points ของ Livermore เพื่อหาโซนกลับตัวที่แม่นยำ สรุปคือ RSI ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจเทรด.
WikiFX โบรกเกอร์
STARTRADER
Exness
HFM
VT Markets
Vantage
XM
STARTRADER
Exness
HFM
VT Markets
Vantage
XM
WikiFX โบรกเกอร์
STARTRADER
Exness
HFM
VT Markets
Vantage
XM
STARTRADER
Exness
HFM
VT Markets
Vantage
XM
