简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจสัปดาห์นี้
บทคัดย่อ:เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ


เหตุการณ์และตัวเลขเศรษฐกิจน่าติดตาม
วันอังคาร ที่ 15 มิถุนายน 2568
- CAD ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คาดการณ์ 0.2% ครั้งก่อน 0.6%
- CAD ค่ามัธยฐานของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของแคนาดา เทียบปีต่อปี คาดการณ์ 3.0% ครั้งก่อน 3.0%
- CAD ดัชนี CPI เฉลี่ยปรับแต่งค่า ของแคนาดา เทียบปีต่อปี คาดการณ์ 3.0% ครั้งก่อน 3.0%
- USA ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.) คาดการณ์ 0.3% ครั้งก่อน 0.1%
- USA ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คาดการณ์ 0.3% ครั้งก่อน 0.1%
- USA ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.) คาดการณ์ 2.6% ครั้งก่อน 2.4%
วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2568
- GBP คำกล่าวของเบลีย์ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งอังกฤษ (BoE)
- GBP ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มิ.ย.) คาดการณ์ 3.4% ครั้งก่อน 3.4%
- USA ดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.) คาดการณ์ 0.2% ครั้งก่อน 0.1%
- USA ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.) คาดการณ์ 0.3% ครั้งก่อน 0.1%
วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน 2568
- AUD การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงาน คาดการณ์ 21.0K ครั้งก่อน -2.5K
- AUD รายงานอัตราการว่างงาน คาดการณ์ 4.1% ครั้งก่อน 4.1%
- USA ดัชนียอดขายปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) คาดการณ์ 0.3% ครั้งก่อน -0.3%
- USA ดัชนียอดขายปลีก เดือนต่อเดือน คาดการณ์ 0.2% ครั้งก่อน -0.9%
- USA จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน คาดการณ์ 234K ครั้งก่อน 227K
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
- ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า ซึ่งในสัปดาห์นี้ ทางการสหรัฐฯ อาจมีการประกาศอัตราภาษีนำเข้าใหม่ที่จะเรียกเก็บกับบรรดาประเทศคู่ค้า หลังครบกำหนด 90 วัน พักมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ส่วนในฝั่งรายงานข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง (NFIB Small Business Optimism) เดือนมิถุนายน โดยเฉพาะในส่วนของแนวโน้มการจ้างงานในภาคธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากการจ้างงานส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ นั้นมาจากภาคธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) เพื่อประเมินภาวะและแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐฯ รวมถึงรอจับตา รายงานการประชุม FOMC ของเฟดล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) ในการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด โดยเริ่มกลับมาเชื่อว่า เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้ง ในปีนี้ และเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้อีกราว 3 ครั้ง ในปีหน้า
- ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB รวมถึง รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซน อย่าง ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (Sentix Investor Confidence) ในเดือนมิถุนายน และรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนพฤษาคม นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป (EU) เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากสหรัฐฯ ปรับเปลี่ยนอัตราภาษีนำเข้าที่จะเรียกเก็บกับสินค้าจากบรรดาประเทศในสหภาพยุโรป
- ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจีน ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ ตลอดทั้งสัปดาห์ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางฝั่งเอเชีย โดยบรรดานักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) อาจลดดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 3.60% และ 2.75% ตามลำดับ ตามแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ทยอยกลับสู่เป้าหมายของธนาคารกลาง ขณะที่ ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) และธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.25% และ 2.50% เพื่อรอประเมินสถานการณ์โดยเฉพาะนโยบายการค้าของรัฐบาล Trump 2.0 ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ ทางรัฐบาลสหรัฐฯ อาจทยอยประกาศอัตราภาษีนำเข้าใหม่ที่จะเรียกเก็บจากบรรดาประเทศคู่ค้า หลังครบกำหนดพักมาตรการภาษีนำเข้าตอบโต้
- ฝั่งไทย – ผู้เล่นในตลาดจะยังคงติดตามพัฒนาการของสถานการณ์การเมืองไทย ท่ามกลางความเสี่ยงที่อาจจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ หรือ การยุบสภา เพื่อเลือกตั้งในช่วงปลายปี พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น แนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ และการประกาศอัตราภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังครบกำหนดพักมาตรการภาษีนำเข้าตอบโต้ ในส่วนของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ในเดือนมิถุนายน
ขอบคุณข้อมูลจาก Investing Thailand
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

ฟอเร็กซ์ vs หุ้น ความเสี่ยงตัวไหนแรงกว่า? เจาะลึกด้วยหลัก Money Management
บทความนี้อธิบายความเสี่ยงของการลงทุนในตลาด Forex และตลาดหุ้น โดยชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงไม่ได้เกิดจากตัวตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการใช้ Leverage การบริหารเงิน และวินัยของเทรดเดอร์เป็นหลัก Forex ถูกจัดว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากความผันผวนรวดเร็วและ Leverage สูง ขณะที่หุ้นมีความผันผวนต่ำกว่าและควบคุมความเสี่ยงได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม หากมีระบบ Money Management ที่ดี Forex ก็สามารถลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสได้เช่นกัน สรุปคือ การเลือกตลาดควรพิจารณาจากสไตล์และวินัยของผู้ลงทุนมากกว่าตัวตลาดเอง.

เช็กปฏิทินข่าวสำคัญประจําสัปดาห์! มีเหตุการณ์อะไรน่าติดตามบ้าง
ปฏิทินข่าว Forex และเหตุการณ์สำคัญประจําสัปดาห์

อยากเทรดให้เก่ง? เริ่มจากสร้าง “ระบบเทรด” ที่พิสูจน์แล้วว่าทำงานจริง
การเทรด Forex ต้องอาศัยความรู้และระบบการเรียนรู้ที่มีแบบแผน ไม่ใช่เพียงการกดออเดอร์หรือหวังพึ่งโชค การศึกษาการเทรดอย่างเป็นระบบ—ทั้งกลยุทธ์ การบริหารเงินทุน ความเสี่ยง และจิตวิทยา—ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจอย่างมีวินัย ลดอารมณ์ และเข้าใจตลาดได้ลึกขึ้น การฝึกด้วยบัญชีทดลอง การตั้งเป้าหมาย การทบทวนผลการเทรด และการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญล้วนเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยสร้างพื้นฐานสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ ความสำเร็จในตลาด Forex เกิดจากการฝึกฝนต่อเนื่องและวินัย ไม่ใช่ความรวดเร็วหรือการเสี่ยงโดยไร้แผน.

Psychology of Trading จุดอ่อนทางอารมณ์ที่ทำให้เทรดเดอร์พลาดในทุกจังหวะตลาด
บทความนี้อธิบายความแตกต่างระหว่าง ตลาดกระทิง และ ตลาดหมี พร้อมชี้ให้เห็นว่าแก่นสำคัญของการอยู่รอดในตลาด Forex ไม่ใช่ทิศทางของราคา แต่คือ จิตวิทยาและวินัยของเทรดเดอร์ ตลาดกระทิงมักสร้างความมั่นใจและความโลภ ขณะที่ตลาดหมีทำให้เกิดความกลัวและการขายแบบตื่นตระหนก ความผิดพลาดส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมมนุษย์ ไม่ใช่สภาพตลาด เทคนิคสำคัญเพื่ออยู่รอดคือ การอ่านแนวโน้มหลัก ตั้งกฎการเทรดที่ชัดเจน ใช้ Stop Loss อย่างมีวินัย และควบคุมอารมณ์ให้มั่นคง บทความสรุปว่า การเข้าใจทั้งตลาดและเข้าใจตัวเองคือกุญแจสู่การเติบโตของพอร์ตอย่างยั่งยืน
