บทคัดย่อ:Momentum Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดที่อาศัย “แรงส่งของราคา” โดยนักเทรดจะเข้าตามทิศทางที่ตลาดเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง หลักคิดสำคัญคือ “Trend is your friend” เครื่องมือที่ใช้วัดโมเมนตัม เช่น RSI, MACD, Stochastic และ Moving Average ช่วยยืนยันจังหวะเข้าซื้อ–ขาย กลยุทธ์ที่นิยม ได้แก่ Breakout, Pullback Entry และ Divergence ซึ่งเหมาะกับนักเทรดสาย Day Trade หรือ Swing Trade ที่มีวินัยด้านการเงินและการจัดการความเสี่ยง จุดแข็งของวิธีนี้คือช่วยให้ตัดสินใจตามระบบ ไม่เทรดด้วยอารมณ์ แต่ข้อจำกัดคือโมเมนตัมสามารถหมดแรงได้ทุกเมื่อ ดังนั้นการวาง Stop Loss จึงเป็นหัวใจสำคัญในการใช้ Momentum Trading อย่างยั่งยืน.

เคยได้ยินคำว่า “Momentum Trading” ผ่านหูมาบ้าง แต่ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร ใช้ทำกำไรได้อย่างไร และเหมาะกับนักเทรดสไตล์ไหน วันนี้แอดเหยี่ยวจะพามาทำความเข้าใจตั้งแต่พื้นฐานว่า Momentum Trading คืออะไร ไปจนถึงวิธีการนำไปปรับใช้ใน กลยุทธ์ Forex อย่างเป็นระบบ
Momentum Trading คืออะไร?
Momentum Trading คือแนวคิดการเทรดที่อาศัย “แรงโมเมนตัม” ของราคา กล่าวง่ายๆ ก็คือ เมื่อราคามีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างแข็งแรง (ขึ้นแรง หรือ ลงแรง) นักเทรดจะเข้าไปตามกระแสนั้น โดยเชื่อว่าแรงดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป
ตัวอย่างเช่น
- ถ้าคู่เงิน EUR/USD กำลังพุ่งขึ้นด้วยแรงซื้อสูง เทรดเดอร์ที่ใช้ Momentum Trading จะเปิด “Buy” เพื่อตามเทรนด์
- แต่ถ้าราคากำลังร่วงแรงเพราะแรงขาย แทนที่จะฝืนตลาด ก็จะเลือก “Sell” ไปกับทิศทางนั้น
หลักการนี้สอดคล้องกับสุภาษิตในวงการลงทุนที่ว่า “Trend is your friend” หรือ “แนวโน้มคือเพื่อนของคุณ”
เครื่องมือวิเคราะห์ Momentum ที่นิยมใช้
แม้ชื่อจะฟังดูซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วการวัด Momentum ทำได้ด้วย Indicator ที่หลายคนคุ้นเคยในตลาด Forex เช่น
- RSI (Relative Strength Index) → บอกความแรงของแรงซื้อแรงขาย
- MACD Histogram → ใช้จับสัญญาณโมเมนตัมเปลี่ยนทิศ
- Stochastic Oscillator → ช่วยยืนยันจุดกลับตัวและแรงส่งของราคา
- Moving Average → ใช้ดูทิศทางรวมและแรงของเทรนด์
เมื่อเอา Indicator เหล่านี้มารวมกับการอ่านกราฟ เราจะมองเห็นได้ว่าตลาดกำลังมีโมเมนตัมมากพอให้เข้าเทรดหรือไม่
กลยุทธ์ Forex ด้วย Momentum Trading
การนำ Momentum Trading มาปรับใช้ใน กลยุทธ์ Forex สามารถทำได้หลายแบบ เช่น
- Breakout Strategy
- รอราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ
- เมื่อราคาทะลุพร้อมโมเมนตัมแรง ให้เข้าเทรดตามทิศทางนั้น
- Pullback Entry
- ราคามีเทรนด์ชัด แต่มีการย่อตัวกลับ
- ใช้ Indicator เช่น RSI ดูว่าแรงโมเมนตัมยังอยู่หรือไม่ ถ้ายังแรง ก็เข้าตามเทรนด์
- Momentum Divergence
- ใช้ MACD หรือ RSI ตรวจจับความขัดแย้งระหว่างราคาและโมเมนตัม
- ถ้าเจอ Divergence อาจบอกได้ว่าราคาใกล้เปลี่ยนทิศ
Momentum Trading เหมาะกับใคร?
- นักเทรดสาย Day Trade หรือ Swing Trade ที่ต้องการเข้าออกตามแรงของตลาด
- มือใหม่ที่อยากมีระบบ เพราะ Indicator ของ Momentum ค่อนข้างชัดเจนและเข้าใจง่าย
- ผู้ที่มีวินัยการเงินสูง เพราะ Momentum Trading ต้องรู้จักวาง Stop Loss เผื่อกรณีโมเมนตัมหมดแรงเร็ว
สรุป
การเข้าใจว่า Momentum Trading คืออะไร ไม่ใช่แค่ทำให้เรารู้จักคำศัพท์ใหม่ๆ ในวงการ Forex แต่ยังช่วยให้เราวาง กลยุทธ์ Forex ได้อย่างมีระบบและไม่เทรดตามอารมณ์ การใช้เครื่องมือวิเคราะห์โมเมนตัม เช่น RSI, MACD หรือ Stochastic สามารถช่วยยืนยันได้ว่าตลาดยังมีแรงส่งพอที่จะทำกำไร
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าลืมว่าโมเมนตัมสามารถหมดแรงได้ทุกเมื่อ การจัดการความเสี่ยงจึงเป็นหัวใจที่ทำให้ Momentum Trading เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้จริงในระยะยาว
โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
