简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจาก WikiEXPO Gustavo Antonio Montero: ESG ในโลกการเงิน
บทคัดย่อ:Gustavo ผู้ก่อตั้ง Carter Capital Management และ Palmer Advisory ให้ภาพรวมการผสานระหว่าง ESG และบล็อกเชนในการลงทุนอย่างยั่งยืน เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยเพิ่มความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ลดความเสี่ยงการฟอกเขียว และสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ เช่น กรีนบอนด์และคาร์บอนเครดิตโทเคนไอซ์ ในตลาด Forex และคริปโต ESG ถูกนำมาประยุกต์เพื่อบริหารความเสี่ยงเชิงระบบและลดรอยเท้าสิ่งแวดล้อม แพลตฟอร์มอย่าง WikiFX ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความโปร่งใสให้ผู้ลงทุน พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการฟินเทคในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน มีจริยธรรม และปรับตัวต่อกฎระเบียบได้อย่างคล่องตัว.

เมื่องาน WikiEXPO Dubai ปิดฉากลงอย่างประสบความสำเร็จ เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณ Gustavo ประธานและผู้ก่อตั้ง Carter Capital Management (การบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างยั่งยืน) และ Palmer Advisory and Consulting ซึ่งเป็นธุรกิจระดับโลกที่พัฒนาโซลูชันฟินเทคและเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง รวมถึงทำงานร่วมกับเทคโนโลยีบล็อกเชน ภารกิจของ Palmer คือการช่วยแก้ไขความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการทางธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและอุตสาหกรรมความยั่งยืนทั่วโลก
ระหว่างที่ทำงานในสวิตเซอร์แลนด์คุณ Gustavo ยังเป็นผู้ก่อตั้งและหัวหน้าทีมในการเปิดสาขาของ Standard Chartered Bank ตั้งแต่เริ่มต้น และดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการของ Cramer Bank (ด้านบริหารความมั่งคั่ง) เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ Exit Strategy และการวางโครงสร้างบริษัท นอกจากนี้คุณ Gustavo ยังเคยเข้าร่วมพิธีตีระฆังเปิดตลาดที่ NYSE ในฐานะกรรมการของ XShares ซึ่งเป็นผู้ออกกองทุน Carbon Credit ETF แรกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น
ด้วยความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในด้านกลยุทธ์การออกจากการลงทุน การวางโครงสร้างองค์กร และการเงินอย่างยั่งยืน คุณ Gustavo ได้แบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับบทบาทของบล็อกเชนในการปฏิวัติระบบ ESG วิวัฒนาการของตลาดคาร์บอน และบทบาทของแพลตฟอร์มอย่าง WikiFX ในการขับเคลื่อนความโปร่งใสให้กับระบบนิเวศทางการเงินทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ.
พาร์ทที่ 1: กำหนดอนาคตการเงินอย่างยั่งยืน
1.คุณมีส่วนสำคัญในด้านการเงินอย่างยั่งยืนและการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล คุณมองเห็นการบรรจบกันระหว่างหลักการ ESG และเทคโนโลยีบล็อกเชนว่าส่งผลต่อภูมิทัศน์การลงทุนอย่างไร?
การบรรจบกันของหลักการ ESG และเทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังพลิกโฉมภูมิทัศน์การลงทุนอย่างสิ้นเชิง ด้วยการเพิ่มระดับความโปร่งใสและความถูกต้องของข้อมูลในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่เดิมการลงทุน ESG มักเผชิญปัญหา เพราะต้องพึ่งพาข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยเอง ซึ่งหลายครั้งไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ จึงเกิดปัญหา “การฟอกเขียว” (greenwashing) อย่างแพร่หลาย แต่บล็อกเชน ซึ่งเป็นระบบบันทึกข้อมูลแบบกระจายศูนย์และแก้ไขไม่ได้ ได้นำเสนอโซลูชันจาก “เชื่อฉัน” สู่ “พิสูจน์ฉัน” ตัวชี้วัดสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณการใช้น้ำของโรงงาน หรือมาตรฐานแรงงานของซัพพลายเออร์ สามารถถูกบันทึกลงบนบล็อกเชนโดยตรง พร้อมตราประทับเวลา เป็นหลักฐานที่ตรวจสอบได้จริง ช่วยให้นักลงทุนสามารถยืนยันความยั่งยืนของบริษัทได้อย่างมั่นใจ
หากมองลึกไปกว่านั้น การผสานกันของ ESG และบล็อกเชนยังนำไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์การลงทุนรูปแบบใหม่ที่โปร่งใสและตั้งโปรแกรมได้ เช่น การโทเคนไนซ์ที่เปิดทางให้เกิดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง “สมาร์ทกรีนบอนด์” ซึ่งสามารถตั้งโปรแกรมให้ปล่อยเงินทุนหรือจ่ายผลตอบแทนต่อผู้ลงทุนได้ก็ต่อเมื่อมีการยืนยันว่าโครงการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดจริง ๆ นอกจากนี้เทคโนโลยีนี้ยังช่วยให้ผู้ลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงโครงการโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว เช่น ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์หรือกังหันลม ผ่านการถือครองแบบแบ่งส่วน ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุนและระดมทุนให้โครงการยั่งยืนต่าง ๆ ได้มากขึ้น
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ เทคโนโลยีนี้กำลังปฏิวัติการตรวจสอบย้อนกลับของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของตัว “S” (Social) และ “E” (Environmental) ใน ESG ด้วยการติดตามสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางบนบัญชีแยกประเภทเดียวกัน ทำให้สามารถตรวจสอบได้จริง เช่น แร่ที่ปราศจากความขัดแย้ง กาแฟแฟร์เทรด หรือปาล์มน้ำมันที่ยั่งยืน ความโปร่งใสเชิงลึกนี้เปิดโอกาสให้นักลงทุนประเมินความเสี่ยงห่วงโซ่อุปทานได้แม่นยำขึ้น และทำให้บริษัทต้องรับผิดชอบต่อคำประกาศด้านความยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดคือการฝังแนวปฏิบัติที่มีจริยธรรมและยั่งยืนลงในโครงสร้างพื้นฐานของระบบการเงินอย่างแท้จริง.
2.ในฐานะที่คุณเคยมีบทบาทสำคัญในการเปิดตัว Carbon Credit ETF รุ่นแรก ๆ คุณมองวิวัฒนาการของตลาดคาร์บอนและการผสานเข้ากับสินทรัพย์โทเคนไอซ์อย่างไร?
ในช่วงแรก ตลาดคาร์บอนถือกำเนิดจากกฎระเบียบระดับสากลอย่างพิธีสารเกียวโต ซึ่งวางระบบ “การจำกัดและซื้อขายสิทธิการปล่อยคาร์บอน” (cap-and-trade) ให้บริษัทสามารถซื้อขายโควตาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ขณะเดียวกัน ตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจก็เติบโตขึ้นควบคู่กัน โดยเปิดโอกาสให้องค์กรต่าง ๆ สนับสนุนโครงการที่ช่วยลดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยคาร์บอน เช่น โครงการปลูกป่า หรือพลังงานหมุนเวียน เพื่อแลกรับเครดิตคาร์บอน
อย่างไรก็ตาม ตลาดคาร์บอนแบบดั้งเดิมมักเผชิญปัญหาเดิม ๆ ได้แก่ ความโปร่งใสต่ำ โครงสร้างที่กระจัดกระจาย และสภาพคล่องต่ำ ที่สำคัญคือการไม่มีระบบบันทึกกลางที่เป็นมาตรฐาน ทำให้การติดตามคาร์บอนเครดิตตรวจสอบได้ยาก ทั้งยังเกิดความเสี่ยงต่อการขายซ้ำหรือการอ้างสิทธิ์ซ้ำในเครดิตเดียวกัน
การนำสินทรัพย์โทเคนไอซ์เข้ามาผสาน ถือเป็นวิวัฒนาการสำคัญที่มุ่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ในรูปแบบใหม่นี้ เครดิตคาร์บอนที่ผ่านการยืนยันจาก Registry จะถูก “โทเคนไนซ์” ให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะบนบล็อกเชน สิ่งนี้มอบความโปร่งใสอย่างก้าวกระโดด เพราะวงจรชีวิตของเครดิต—ตั้งแต่การออกให้ ไปจนถึงการ “retire” (การเผาทำลายเพื่อใช้ชดเชยการปล่อยคาร์บอน)—ถูกบันทึกบนบัญชีแยกประเภทสาธารณะที่แก้ไขไม่ได้
กระบวนการนี้ช่วยป้องกันการขายหรืออ้างสิทธิ์เครดิตซ้ำโดยอัตโนมัติ เพิ่มสภาพคล่องระดับโลกด้วยการซื้อขายแบบ 24 ชั่วโมงบนตลาดดิจิทัล และเปิดโอกาสให้นักลงทุนกลุ่มกว้างเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้โครงสร้างทางการเงินเพื่อการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศโปร่งใส น่าเชื่อถือ และมีประสิทธิภาพกว่าเดิมอย่างมาก.
3.จากประสบการณ์ในการสร้างทั้งธนาคารและสตาร์ทอัป อะไรคือกุญแจสำคัญในการสร้างโครงสร้างองค์กรที่ยืนหยัดได้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว?
กุญแจสำคัญของการสร้างองค์กรที่แข็งแกร่งท่ามกลางกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว คือการละทิ้งวิธีคิดแบบเดิมที่ยึดติดกับการทำตามกฎแบบเป็นเช็กลิสต์ แล้วเปลี่ยนมาใช้แนวคิดเชิงรุกที่เน้น “ความคล่องตัวเชิงองค์กร” แทน ในอดีต การปฏิบัติตามกฎมักถูกมองเป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมายเพียงฝ่ายเดียว แต่ในยุคที่กฎหมายด้านความเป็นส่วนตัว ESG และ AI กำลังเกิดใหม่และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา วิธีคิดแบบตายตัวเช่นนั้นกลับกลายเป็นจุดอ่อน องค์กรที่ยืนหยัดได้จะต้องผสานมุมมองด้านกฎระเบียบเข้าไว้ในกลยุทธ์ธุรกิจและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตั้งแต่แรก เริ่มจากการมองไปข้างหน้า—คาดการณ์ทิศทางกฎหมายที่จะเกิดขึ้น—และสร้างระบบที่ยืดหยุ่น ปรับตัวได้รวดเร็ว มองกฎระเบียบใหม่ไม่ใช่เป็นปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นเรื่องปกติที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือ
ความคล่องตัวเชิงโครงสร้างนี้ตั้งอยู่บนสองเสาหลัก: ธรรมาภิบาลแบบบูรณาการ และ เทคโนโลยีที่ปรับตัวได้ ในการทำงานจริง การสร้างความยืดหยุ่นหมายถึงการทำลายกำแพงระหว่างแผนกกฎหมาย IT ผลิตภัณฑ์ และปฏิบัติการ ทีมงานข้ามสายงานมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการประเมินผลกระทบของกฎใหม่ต่อทั้งองค์กร และออกแบบการตอบสนองที่เป็นหนึ่งเดียว ส่วนในมุมเทคโนโลยี ความยืดหยุ่นขึ้นอยู่กับระบบการจัดการข้อมูลที่แข็งแรง—เพราะบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ไม่ได้เลย หากไม่รู้ว่าตนเองมีข้อมูลอะไร เก็บไว้ที่ไหน และใช้อย่างไร การลงทุนในสถาปัตยกรรม IT ที่ยืดหยุ่นและการทำแผนที่ข้อมูลอย่างชัดเจน จะช่วยให้องค์กรปรับกระบวนการต่าง ๆ ให้ตรงตามกฎใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ลดความปั่นป่วน และแปลงภาระด้านกฎระเบียบให้กลายเป็น “ข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขัน” ที่ยั่งยืนแทน.
พาร์ทที่ 2: ESG ในตลาด FX และบทบาทของ WikiFX
1.WikiEXPO นำแนวคิดด้านความยั่งยืนและนวัตกรรมมารวมไว้ในที่เดียว คุณคิดว่าภาคตลาดฟอเร็กซ์และคริปโตสามารถสอดคล้องกับเป้าหมาย ESG ในทางปฏิบัติได้อย่างไร?
ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) สามารถสอดคล้องกับเป้าหมาย ESG ได้หลัก ๆ ผ่านการคัดกรองการลงทุนในระดับมหภาค โดยพิจารณาผลประกอบการด้านความยั่งยืนและธรรมาภิบาลของแต่ละประเทศ แทนที่จะโฟกัสเพียงอัตราดอกเบี้ยและ GDP นักลงทุนสถาบันและผู้จัดการสินทรัพย์เริ่มรวมคะแนน ESG ของประเทศ เช่น ความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ การนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ และความโปร่งใสทางการเมือง เข้าไปในโมเดลประเมินค่าเงินของตน เงินตราจากประเทศที่มีเกณฑ์ ESG สูง เช่น ฟรังก์สวิส (CHF) หรือ โครนานอร์เวย์ (NOK) อาจถูกชื่นชอบมากกว่าเนื่องจากมีความเสี่ยงเชิงระบบจากเหตุการณ์ทางสภาพอากาศหรือความไม่สงบทางสังคมต่ำ การไหลของเงินทุนนี้ยังเป็นแรงจูงใจให้รัฐบาลดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ดีขึ้น ส่งผลให้ตลาด FX ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายเกิน 7 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน กลายเป็นเครื่องมือที่สนับสนุนการบริหารประเทศอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์ FX ที่เชื่อมโยงกับ ESG เช่น การป้องกันความเสี่ยงค่าเงินที่เชื่อมโยงกับผลตอบแทนของกรีนบอนด์ ยังเชื่อมโยงการเทรดค่าเงินโดยตรงกับผลลัพธ์ทางการเงินที่ยั่งยืน
ในภาคคริปโต การสอดคล้องกับ ESG ในทางปฏิบัติมุ่งเน้นไปที่การลดรอยเท้าสิ่งแวดล้อมขนาดใหญ่จากกลไกการยืนยันธุรกรรมที่ใช้พลังงานสูง เช่น Proof-of-Work (PoW การทำเหมืองแบบดั้งเดิม) การเปลี่ยนไปใช้กลไก Proof-of-Stake (PoS) ของคริปโตหลักอย่าง Ethereum สามารถลดการใช้พลังงานลงกว่า 99% ซึ่งเป็นทางออกด้าน “E” ที่เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ภาคคริปโตยังสอดคล้องกับเสาหลัก “S” (Social) โดยสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงิน ให้ประชากรที่ไม่สามารถเข้าถึงธนาคารใช้บริการได้อย่างทั่วถึงและต้นทุนต่ำ จากมุมมองการกำกับดูแล เทคโนโลยีบล็อกเชนด้วยความโปร่งใสและไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้ สามารถใช้ติดตามกรีนบอนด์และคาร์บอนเครดิตได้ ทำให้มั่นใจว่าเงินทุนถูกใช้ตามวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมหรือสังคมจริง ๆ ส่งผลให้เสาหลัก “G” ของ ESG ในสินทรัพย์ใหม่เข้มแข็งขึ้น
2.WikiFX ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการเทรดที่โปร่งใสและเป็นไปตามกฎระเบียบทั่วโลก — คุณมองบทบาทของมันในการช่วยให้นักลงทุนสำรวจสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างรับผิดชอบอย่างไร?
WikiFX มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมการเทรดที่โปร่งใสและเป็นไปตามกฎระเบียบ ด้วยการทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบอิสระและผู้ให้บริการข้อมูลที่มุ่งเน้นตลาด Forex และปัจจุบันขยายไปยังตลาดนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล แพลตฟอร์มนี้สร้างความโปร่งใสผ่านกระบวนการตรวจสอบนายหน้าอย่างครบถ้วน ซึ่งรวมถึงการประเมินใบอนุญาตทางกฎหมายจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น FCA, ASIC และ NFA การประเมินเครดิตเชิงปฏิบัติการของนายหน้า และแม้กระทั่งการสำรวจสำนักงานของพวกเขาทั่วโลกอย่างเป็นรูปธรรม การเปิดเผยข้อมูลอย่างละเอียดเหล่านี้ — รวมถึงสถานะการกำกับดูแล ความเสี่ยง และข้อร้องเรียนของผู้ใช้ — ช่วยลดความไม่สมดุลของข้อมูลที่มักเอื้อให้ผู้ให้บริการที่ไม่ชอบธรรมหรือไม่ได้รับการกำกับดูแลทำผิดกฎได้ ข้อมูลที่ถูกตรวจสอบและรวมรวมไว้นี้ยังช่วยให้นักลงทุนทำการตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิด “ผู้ตรวจสอบทั่วโลก” ที่กดดันให้นายหน้าดำเนินธุรกิจด้วยมาตรฐานสูงด้านธรรมาภิบาลและจริยธรรม
สำหรับนักลงทุนที่ต้องเผชิญกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ซับซ้อนและผันผวนสูง บทบาทของ WikiFX มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจอย่างรับผิดชอบ ตลาดคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความกระจัดกระจาย ขาดการกำกับดูแลที่เป็นมาตรฐานระดับโลก และมีความเสี่ยงต่อการถูกโกงหรือแลกเปลี่ยนที่มีทุนต่ำ WikiFX ช่วยให้นักลงทุนมองเห็นความชัดเจนท่ามกลางความวุ่นวายนี้ ด้วยการใช้โมเดลตรวจสอบกฎระเบียบที่มีอยู่กับนายหน้าและแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ ๆ โดยการให้คะแนนประเมินความเสี่ยง เปิดเผยนายหน้าปลอมหรือลอกเลียนแบบ และรวบรวมความคิดเห็นผู้ใช้แบบเรียลไทม์ แพลตฟอร์มช่วยให้นักลงทุนคัดกรองความถูกต้องก่อนลงทุนจริง บริการนี้เป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยงจากคู่สัญญาและป้องกันการฉ้อโกง ทำให้นักลงทุนสามารถมุ่งเน้นไปที่แพลตฟอร์มที่แสดงถึงความมุ่งมั่นด้านการกำกับดูแล ความปลอดภัย และความมั่นคงในการดำเนินงาน
3.คุณอยากส่งข้อความอะไรถึงผู้ประกอบการที่มุ่งผสานความยั่งยืนกับนวัตกรรมฟินเทค?
แน่นอน ทุกผู้ประกอบการที่ต้องการรวมความยั่งยืนเข้ากับฟินเทคควรตระหนักว่า การผสานนี้ไม่ได้เป็นแค่ตลาดเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป แต่คืออนาคตของการเงิน คุณมีโอกาสพิเศษในการแก้ปัญหาสำคัญสองเรื่องของโลกไปพร้อมกัน ได้แก่ การปิดช่องว่างการระดมทุนหลายล้านล้านดอลลาร์เพื่อดำเนินมาตรการด้านสภาพภูมิอากาศ และการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระบบการเงิน
จงมุ่งนวัตกรรมของคุณไปที่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ทำให้การเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งรวมถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างบล็อกเชนเพื่อข้อมูล ESG ที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ รวมถึงใช้ AI วิเคราะห์ความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศในพอร์ตการลงทุน โครงการที่ประสบความสำเร็จที่สุดจะไม่เพียงแค่รายงานผลกระทบ แต่จะฝังผลกระทบเหล่านั้นเข้าไปโดยตรงในแต่ละธุรกรรม ไม่ว่าจะเป็นตลาดคาร์บอนแบบโทเคน การปล่อยกู้สีเขียวอัตโนมัติ หรือระบบออมเงินเชิงเกมที่ให้รางวัลกับพฤติกรรมที่ยั่งยืน
กุญแจสู่ความสำเร็จระยะยาวในพื้นที่นี้คือ การสร้างความยืดหยุ่นและความสามารถในการทำงานร่วมกันของระบบ กฎระเบียบกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งการเปิดเผยข้อมูลสภาพภูมิอากาศที่เป็นข้อบังคับ การตั้งราคาเครดิตคาร์บอน และกฎสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ ๆ วางโครงสร้างบริษัทและเทคโนโลยีให้มีความคล่องตัวสูง มองการปฏิบัติตามกฎระเบียบไม่ใช่ภาระ แต่เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ และมั่นใจว่าแพลตฟอร์มของคุณสามารถผสานเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่น พร้อมสร้างความโปร่งใสล้ำสมัยตามที่นักลงทุนยั่งยืนต้องการ ด้วยการสร้างโซลูชันที่แข็งแกร่ง มีจริยธรรม และปรับขนาดได้ตั้งแต่วันนี้ คุณสามารถครอบครองส่วนแบ่งตลาดสำคัญ และกลายเป็นเชื่อมต่อที่จำเป็นระหว่างเงินทุนกับเศรษฐกิจโลกที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
เกี่ยวกับการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกของ WikiEXPO
ในฐานะผู้จัดงาน WikiEXPO, WikiGlobal มุ่งมั่นสร้างเวทีสำหรับการสนทนาและความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านงานแสดงสินค้ารูปแบบออฟไลน์ โดยการมีส่วนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านกฎระเบียบทางการเงิน เทคโนโลยี และธรรมาภิบาล WikiGlobal ตั้งเป้าที่จะยกระดับการบูรณาการระหว่างฟินเทคและเร็กเทค ปรับปรุงประสิทธิภาพและความแม่นยำในการกำกับดูแล และส่งเสริมวินัยในอุตสาหกรรม
ผ่านความพยายามเหล่านี้ เราสนับสนุนให้สถาบันการเงินนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดมาใช้ สร้างระบบนิเวศที่โปร่งใสและยืดหยุ่นมากขึ้น และในที่สุดสร้างสภาพแวดล้อมการเทรดที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุนทั่วโลก
โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
WikiFX โบรกเกอร์
Vantage
Ultima
AVATRADE
D prime
Exness
FXTM
Vantage
Ultima
AVATRADE
D prime
Exness
FXTM
WikiFX โบรกเกอร์
Vantage
Ultima
AVATRADE
D prime
Exness
FXTM
Vantage
Ultima
AVATRADE
D prime
Exness
FXTM

