简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจสัปดาห์นี้
บทคัดย่อ:เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจสัปดาห์นี้

ตัวเลขเศรษฐกิจน่าติดตาม
วันพุธที่ 23 ส.ค. 2023
• 20.45 น. : ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ตัวเลขครั้งก่อน 49 ตัวเลขคาดการณ์ 48.9
• 20.45 น. : ดัชนี PMI ภาคการบริการของสหรัฐฯ ตัวเลขครั้งก่อน 52.3 ตัวเลขคาดการณ์ 52.4
วันพฤหัสบดีที่ 24 ส.ค. 2023
• 19.30 น. : จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ตัวเลขครั้งก่อน 239K ตัวเลขคาดการณ์ 241K
วันศุกร์ที่ 25 ส.ค. 2023
• 21.00 น. : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิชิแกน ตัวเลขครั้งก่อน 71.2 ตัวเลขคาดการณ์ 71.2
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังผู้เล่นในตลาดเพิ่มโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยและโอกาสเฟดคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดการเงินผันผวน
เงินดอลลาร์อาจยังไม่กลับมาอ่อนค่าลงชัดเจน ตราบใดที่ตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off)
นอกจากนี้ หากตลาดยังคงเพิ่มโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ หรือคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานขึ้น (จาก CME FedWatch Tool ล่าสุด ตลาดให้โอกาส 36% เฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ และให้โอกาส 65% ที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม 2024) อาจหนุนให้ทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นต่อได้
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
1. ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะ ถ้อยแถลงของประธานเฟดในงานสัมมนาวิชาการประจำปีของเฟดที่เมือง Jackson Hole (ตลาดจะทยอยรับรู้ถ้อยแถลงดังกล่าวในช่วงราว 21.05 น. ของวันศุกร์ที่ 25 นี้ ตามเวลาในประเทศไทย) โดยตลาดจะรอตีความการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด หลังล่าสุด รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมยังคงออกมาดูดีและเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนก็ออกมาสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ จนทำให้ล่าสุดผู้เล่นในตลาดปรับเพิ่มโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ รวมถึงโอกาสที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน ซึ่งมุมมองดังกล่าวของผู้เล่นในตลาดได้หนุนให้ทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการบริการ (S&P Manufacturing & Services PMIs) เดือนสิงหาคม เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทิศทางนโยบายการเงินของเฟด โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมองว่า ภาคการผลิตของสหรัฐฯ อาจยังคงหดตัวต่อเนื่อง โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตจะอยู่ที่ระดับ 49 จุด (ดัชนีต่ำกว่า 50 จุด หมายถึง ภาวะหดตัว) ในขณะที่ภาคการบริการจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องได้ แม้การขยายตัวอาจชะลอลงบ้าง ตามผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงเงินออมส่วนเกิน (Excess Savings) ของคนอเมริกันที่ทยอยลดลง โดยดัชนี PMI ภาคการบริการอาจลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 52 จุด
2. ฝั่งยุโรป – นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า เศรษฐกิจยุโรปยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง สะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของยูโรโซนและอังกฤษ ในเดือนสิงหาคม ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง กดดันจากผลกระทบของการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของทั้งธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงภาพเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญที่ชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน อย่างไรก็ดี แม้ว่าภาพเศรษฐกิจอังกฤษและยูโรโซนจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น แต่เรายังคงมองว่า อัตราเงินเฟ้อของทั้งอังกฤษและยูโรโซนที่ยังคงอยู่ในระดับสูงมาก เมื่อเทียบกับเป้าหมายของธนาคารกลาง จะส่งผลให้ BOE และ ECB มีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ในปีนี้
3. ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกหนี้ชั้นดี (Loan Prime Rate) ของธนาคารกลางจีน (PBOC) หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้า PBOC ได้เซอร์ไพร์สตลาดด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย MLF -15bps สู่ระดับ 2.50% ท่ามกลางรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนที่ออกมาแย่กว่าคาด โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมองว่า PBOC อาจปรับลด LPR ประเภท 1 ปี และ 5 ปี เพื่อช่วยพยุงการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ตลาดอสังหาฯ จีนที่ยังคงซบเซา อาจเพิ่มโอกาสที่ PBOC อาจลด LPR ประเภท 5 ปี ลงมากกว่า -15bps
อย่างไรก็ดี ในส่วนนโยบายการเงินของธนาคารกลางอื่นๆ ตลาดมองว่า ทั้งธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) และ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.50% และ 5.75% ตามลำดับ หลังอัตราเงินเฟ้อของทั้งสองประเทศมีแนวโน้มชะลอลงเข้าใกล้ระดับเป้าหมายของธนาคารกลาง อนึ่ง ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ตลาดจะรอจับตารายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม โดยนักวิเคราะห์มองว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งจะสะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการบริการ ขณะที่ภาคการผลิตอาจยังคงหดตัว ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะจีน ที่ยังมีปัญหาสินค้าคงคลัง (Inventory) อยู่ในระดับสูง
4. ฝั่งไทย – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่การโหวตเลือกนายกฯ วันที่ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติและความผันผวนของเงินบาทได้อย่างมีนัยสำคัญ ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์ต่างมองว่า เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัว ในไตรมาสที่ 2 หนุนโดยการฟื้นตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยว ขณะที่ปัจจัยกดดันอาจมาจากการค้าระหว่างประเทศที่ซบเซา รวมถึงการลงทุนที่อาจชะลอลงมากขึ้นจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมือง
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เทรดเยอะได้คืนเยอะ! ความจริงเกี่ยวกับระบบ Forex Cashback ที่หลายคนยังไม่รู้
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Forex Cashback ในยุคที่การแข่งขันของโบรกเกอร์สูงขึ้น โดยชี้ให้เห็นว่าเงินคืนจากค่า Spread และ Commission สามารถลดต้นทุนการเทรดได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เทรดถี่หรือใช้ EA ซึ่งมีปริมาณการเทรดสูง ระบบ Cashback ทำงานผ่านการคืนส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมต่อจำนวนล็อตที่เทรด ทำให้เทรดเดอร์ได้รับผลประโยชน์ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน พร้อมวิเคราะห์ข้อดี ข้อควรระวัง วิธีเลือกผู้ให้บริการที่ปลอดภัย และแนวทางใช้ Cashback ให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด โดยสรุปแล้ว Forex Cashback เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดโดยไม่เพิ่มความเสี่ยง และเป็นโอกาสที่เทรดเดอร์ไม่ควรมองข้าม

ไทยติดอันดับ 1 ความเสียหายจากการฉ้อโกงในเอเชียแปซิฟิก นักเทรดเองก็เสี่ยงนะ
บทความนี้กล่าวถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในยุคดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะนักเทรด Forex ที่ต้องทำธุรกรรมออนไลน์เป็นประจำ ท่ามกลางภัยฉ้อโกงรูปแบบใหม่ที่พัฒนาด้วย AI เช่น ข้อความปลอม ลิงก์ปลอม และการหลอกให้กดยืนยันธุรกรรมเอง ซึ่งเป็นสาเหตุความเสียหายมหาศาลในประเทศไทย ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าจุดอ่อนสำคัญคือ “ผู้ใช้” ไม่ใช่ระบบ จึงเน้นย้ำว่านักเทรดต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูล การตรวจสอบความถูกต้องของช่องทางต่าง ๆ และตระหนักว่าในโลกออนไลน์ ความอยู่รอดสำคัญไม่แพ้ความสามารถในการเทรด.

ไม่รู้ไม่ได้! 5 ตัวเลือก Platform Trading ที่นักเทรดทุกคนต้องเช็ก
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Platform Trading สำหรับนักเทรด Forex ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการเปิด–ปิดออร์เดอร์ วิเคราะห์กราฟ และบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสรุปฟีเจอร์ที่แพลตฟอร์มที่ดีควรมี ประเภทของแพลตฟอร์มทั้งเชิงพาณิชย์และเฉพาะสถาบัน รวมถึงปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้งาน เช่น ฟีเจอร์ ค่าธรรมเนียม และความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ โดยยกตัวอย่างแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4/MT5, cTrader และ NinjaTrader เพื่อช่วยให้นักเทรดเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับกลยุทธ์และรูปแบบการเทรดของตนเอง.

อยากเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว แต่ก่อนจะลาออกชาวออฟฟิศต้องทำสิ่งนี้!!
ก่อนจะลาออกจากงานประจำเพื่อเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมความพร้อมทางการเงินและเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อให้สามารถรับมือความเสี่ยงในตลาดได้อย่างมั่นใจ สิ่งที่ควรทำได้แก่ การเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน 6–12 เดือน ใช้สิทธิ์ประกันสังคมและเงินชดเชยว่างงาน จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างเหมาะสม ขอคืนเงินประกันการทำงาน และเก็บเอกสารสำคัญจากนายจ้างให้ครบ การเตรียมตัวเหล่านี้ช่วยให้การก้าวสู่ชีวิตเทรดเดอร์เต็มเวลาราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น
WikiFX โบรกเกอร์
JustMarkets
FOREX.com
FXTM
fpmarkets
IC Markets Global
GTCFX
JustMarkets
FOREX.com
FXTM
fpmarkets
IC Markets Global
GTCFX
WikiFX โบรกเกอร์
JustMarkets
FOREX.com
FXTM
fpmarkets
IC Markets Global
GTCFX
JustMarkets
FOREX.com
FXTM
fpmarkets
IC Markets Global
GTCFX
