简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
จดได้จด! 7 สัญญาณบอกจังหวะซื้อใน "ช่วงราคาทองลง"
บทคัดย่อ:บทความนี้นำเสนอ 7 สัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลง เช่น ค่าเงินดอลลาร์แข็ง ดอกเบี้ยขยับสูง เงินเฟ้อชะลอ และนโยบายธนาคารกลาง นักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลนี้ร่วมกับการวิเคราะห์เชิงเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานเพื่อวางแผนการลงทุน ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสทำกำไรจากการลงทุนในทองคำอย่างมีประสิทธิภาพ

แอดเหยี่ยวมาแล้ว! วันนี้แอดจะมาเล่าเรื่องที่สายลงทุนทองต้องจดไว้ให้แม่น เพราะมันคือ 7 สัญญาณสำคัญที่จะช่วยให้คุณรู้ว่า “ทองกำลังจะลง!” เอาไว้เป็นจังหวะสวยๆ สำหรับการลงทุนทองคำ แล้วทำไมต้องรู้ล่ะ? เพราะทองคำไม่ใช่แค่ของสะสม มันคือการลงทุนที่ฮิตที่สุดในช่วงเศรษฐกิจผันผวน ช่วยรักษามูลค่าเงินได้ดี แต่อย่าลืมว่าการซื้อทองให้มีกำไรต้องมี “เทคนิค”! ไม่ต้องเสียเวลาล่ะ ไปดูเลยว่าอะไรบ้างที่แอดต้องเตือนคุณ!
1. ค่าเงินดอลลาร์แข็ง ค่าเงินดอลลาร์มา ทองลง
เคยสังเกตไหม? เวลาที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งปั๊บ ราคาทองมักจะดิ่งลงตาม ทำไมล่ะ? ก็เพราะทองคำราคาถูกตั้งไว้เป็นสกุลดอลลาร์ พอเงินดอลลาร์แข็ง ค่าเงินอื่นๆ ก็ต้องจ่ายแพงขึ้น นักลงทุนเลยหันไปถือเงินดอลลาร์แทน นอกจากจะได้กำไรจากค่าเงินแล้ว ยังมีดอกเบี้ยงามๆ อีกด้วย
2. ดอกเบี้ยพุ่ง ทองร่วงแน่นอน
ถ้าดอกเบี้ยขึ้นเมื่อไหร่ ทองมักจะแพ้เกมทันที เพราะทองไม่มีดอกเบี้ย! นักลงทุนจะขายทองแล้วเอาเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า เช่น พันธบัตร ตราสารหนี้ เรียกง่ายๆ ว่า ใครจะถือทองให้เสียดอกเบี้ยทำไมล่ะ จริงไหม?
3. เงินเฟ้อสงบ คนเลิกซื้อทอง
ช่วงเงินเฟ้อแรง คนแห่ซื้อทองเพื่อป้องกันความเสี่ยง แต่ถ้าเงินเฟ้อเริ่มชะลอ ทองก็มักจะร่วงลง เพราะนักลงทุนไม่จำเป็นต้องถือทองไว้เยอะแล้ว แถมธนาคารกลางก็อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อ คนเลยเทขายทองไปลงทุนในอย่างอื่นแทน
4. ตลาดซื้อ-ขายทองคึกคักผิดปกติ
ถ้าคุณเห็นคนแห่ขายทองเยอะๆ หรือปริมาณซื้อขายสูงผิดปกติ นั่นคือสัญญาณเตือนว่าราคาทองอาจจะปรับตัวลงเร็วๆ นี้! แอดแนะนำให้ดูการเคลื่อนไหวของกองทุน ETF ทองคำด้วย เพราะกองทุนใหญ่ๆ พวกนี้มีผลกระทบกับราคาทองในตลาดโลกแบบมหาศาล
5. กราฟราคาทองบอกใบ้ได้
ใครถนัดอ่านกราฟต้องใช้ให้เป็น! ถ้าราคาทองเริ่มหลุด “เส้นค่าเฉลี่ย” สำคัญ และมีรูปแบบขาลงชัดเจน นั่นคือสัญญาณว่า ทองจะลงแน่นอน ยิ่งถ้าแท่งเทียนมีลักษณะบ่งชี้แนวโน้มลงพร้อมปริมาณการซื้อขายสูง ก็น่าจะถึงเวลาลงทุน!
6. นโยบายแบงก์ชาติคือหัวใจ
ธนาคารกลางปรับดอกเบี้ยขึ้น หรือประกาศลดขนาดงบดุลเมื่อไหร่ ทองมักไม่รอด นอกจากนี้ยังต้องคอยดูว่าธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ถือทองเพิ่มหรือลด เพราะสิ่งเหล่านี้กระทบความเชื่อมั่นและราคาทองในตลาดโลกแบบตรงๆ
7. เหตุการณ์โลกที่สงบลง
พอเหตุการณ์ระหว่างประเทศเริ่มคลี่คลาย หรือเศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัว นักลงทุนก็จะลดการถือครองทองคำ หันไปลงทุนสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น หุ้น หรือคริปโต ถ้าความมั่นใจในตลาดเพิ่มขึ้นเมื่อไหร่ ความนิยมถือทองก็จะลดลง
จังหวะซื้อทองให้ได้กำไร ต้องทำยังไง?
แอดเหยี่ยวบอกเลยว่า ซื้อทองให้รวยไม่ได้แค่ดูว่าราคาลงอย่างเดียว คุณต้อง “วางแผน” และมีวินัยด้วยนะ!
- ซื้อตามแนวรับสำคัญ
ถ้าราคาทองลงมาทดสอบแนวรับ แนะนำให้รอสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน เช่น ราคาเริ่มมีแรงซื้อคืน หรือปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้น
- ทยอยซื้อเพื่อเฉลี่ยต้นทุน
อย่าทุ่มเงินก้อนเดียว! ทยอยซื้อทีละน้อยๆ จะช่วยลดความเสี่ยง และถ้าราคาทองร่วงแรง อาจเพิ่มเงินลงทุนช่วงนั้นเพื่อให้ได้ต้นทุนเฉลี่ยที่ดีขึ้น
- วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ต้องรู้เรื่องค่าเงินดอลลาร์ แนวโน้มดอกเบี้ย และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกไว้ด้วย จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้เฉียบกว่าเดิม
ข้อควรระวังสำคัญ
ตอนทองราคาลง อย่ารีบซื้อแบบไม่คิด! ให้รอดูว่าราคามีแนวโน้มฟื้นตัวจริงหรือเปล่า สำรองเงินสดไว้ และที่สำคัญ ตั้งจุดตัดขาดทุนเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหายจากการปรับตัวลงต่อเนื่อง
การลงทุนในทองคำไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และการสังเกตปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ใครที่สนใจศึกษาเพิ่ม ลองดูเรื่องการเทรดทองออนไลน์หรือการวิเคราะห์กราฟแนวรับ-แนวต้านเพิ่มเติมก็ได้
ลงทุนทองคำให้ได้กำไรไม่ได้ยาก ถ้าคุณใส่ใจและมีวินัย แอดเหยี่ยวขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ!
ขอบคุณข้อมูลจาก uhas
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

Copy Trade คือทางลัดหรือกับดัก? ถ้าสนใจแต่ยังไม่แน่ใจต้องอ่าน
Forex Copy Trade เป็นระบบที่เปิดโอกาสให้นักลงทุน โดยเฉพาะมือใหม่ สามารถคัดลอกการเทรดของผู้เชี่ยวชาญแบบอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการวิเคราะห์ตลาด แต่แม้จะมีข้อดี เช่น ใช้งานง่าย เลือกความเสี่ยงได้ และเรียนรู้จากนักเทรดมืออาชีพ ระบบนี้ก็มาพร้อมความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ผลงานในอดีตไม่การันตีอนาคต ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมออเดอร์เอง และความเสี่ยงจากการบริหารเงินทุนของนักเทรดที่เลือก ดังนั้น การเลือกนักเทรดที่มีประวัติยาว การบริหารความเสี่ยงดี และผลลัพธ์สม่ำเสมอ ถือเป็นปัจจัยหลักในการใช้ Copy Trade ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ระยะยาว

เทรดเยอะได้คืนเยอะ! ความจริงเกี่ยวกับระบบ Forex Cashback ที่หลายคนยังไม่รู้
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Forex Cashback ในยุคที่การแข่งขันของโบรกเกอร์สูงขึ้น โดยชี้ให้เห็นว่าเงินคืนจากค่า Spread และ Commission สามารถลดต้นทุนการเทรดได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เทรดถี่หรือใช้ EA ซึ่งมีปริมาณการเทรดสูง ระบบ Cashback ทำงานผ่านการคืนส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมต่อจำนวนล็อตที่เทรด ทำให้เทรดเดอร์ได้รับผลประโยชน์ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน พร้อมวิเคราะห์ข้อดี ข้อควรระวัง วิธีเลือกผู้ให้บริการที่ปลอดภัย และแนวทางใช้ Cashback ให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด โดยสรุปแล้ว Forex Cashback เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดโดยไม่เพิ่มความเสี่ยง และเป็นโอกาสที่เทรดเดอร์ไม่ควรมองข้าม

ไทยติดอันดับ 1 ความเสียหายจากการฉ้อโกงในเอเชียแปซิฟิก นักเทรดเองก็เสี่ยงนะ
บทความนี้กล่าวถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในยุคดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะนักเทรด Forex ที่ต้องทำธุรกรรมออนไลน์เป็นประจำ ท่ามกลางภัยฉ้อโกงรูปแบบใหม่ที่พัฒนาด้วย AI เช่น ข้อความปลอม ลิงก์ปลอม และการหลอกให้กดยืนยันธุรกรรมเอง ซึ่งเป็นสาเหตุความเสียหายมหาศาลในประเทศไทย ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าจุดอ่อนสำคัญคือ “ผู้ใช้” ไม่ใช่ระบบ จึงเน้นย้ำว่านักเทรดต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูล การตรวจสอบความถูกต้องของช่องทางต่าง ๆ และตระหนักว่าในโลกออนไลน์ ความอยู่รอดสำคัญไม่แพ้ความสามารถในการเทรด.

ไม่รู้ไม่ได้! 5 ตัวเลือก Platform Trading ที่นักเทรดทุกคนต้องเช็ก
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Platform Trading สำหรับนักเทรด Forex ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการเปิด–ปิดออร์เดอร์ วิเคราะห์กราฟ และบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสรุปฟีเจอร์ที่แพลตฟอร์มที่ดีควรมี ประเภทของแพลตฟอร์มทั้งเชิงพาณิชย์และเฉพาะสถาบัน รวมถึงปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้งาน เช่น ฟีเจอร์ ค่าธรรมเนียม และความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ โดยยกตัวอย่างแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4/MT5, cTrader และ NinjaTrader เพื่อช่วยให้นักเทรดเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับกลยุทธ์และรูปแบบการเทรดของตนเอง.
