简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
พฤติกรรมการลงทุนของ Gen ต่างๆ
บทคัดย่อ:เพราะต่างยุค ต่างความคิด ทุกคนเลยมี mindset ในด้านการเงินที่ต่างกัน เเล้วมีอะไรที่ต่างกันบ้างละ วันนี้แอดเหยี่ยวจะมาเล่าถึง พฤติกรรมการลงทุนของคนใน Generation ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Babyboomer, Gen X, Gen Y, Gen Z ว่ามีความเหมือน หรือ แตกต่างกันอย่างไร ถ้าทุกคนอยากรู้มาลองอ่านไปพร้อมๆกันเลย

เนื่องจาก ในแต่ละ Generation มีการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมหรือสถานะทางสังคมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งส่งผลต่อทัศนคติและวิธีคิดต่างๆ และวันนี้แอดเหยี่ยวจะมาเล่าถึง พฤติกรรมการลงทุนของคนใน Generation ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Babyboomer, Gen X, Gen Y, Gen Z ว่ามีความเหมือน หรือ แตกต่างกันอย่างไร
- Baby Boomer (เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2489-2507) เป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์ทำงานมานานและมีการเก็บออมเงินค่อนข้างเยอะ มักจะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาล, เงินฝากประจำ และอสังหาริมทรัพย์
- Gen X (เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2508-2523) มักให้ความสำคัญในการวางแผนการเงินหลังเกษียณอายุหรือตอนที่ไม่ได้ทำงาน มักลงทุนในหุ้น , กองทุนรวม, อสังหาริมทรัพย์ และตราสารหนี้ และให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่จับต้องได้ เช่น ที่ดิน บ้าน ทองคำ
- Gen Y (เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2524-2539) เป็นกลุ่มที่เติบโตมาในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว มีการใช้เทคโนโลยีหรือ Application ต่างๆเข้ามาช่วยในการลงทุน ให้ความสนใจกับสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอและมั่นคง
- Gen Z (เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2540-2555) เป็นกลุ่มที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีและสื่อออนไลน์ต่างๆ ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและรวดเร็ว มักลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งให้ผลตอบแทนสูง เช่น หุ้นที่มีความเสี่ยงสูง หรือ ลงทุนใน Crypto
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

Copy Trade คือทางลัดหรือกับดัก? ถ้าสนใจแต่ยังไม่แน่ใจต้องอ่าน
Forex Copy Trade เป็นระบบที่เปิดโอกาสให้นักลงทุน โดยเฉพาะมือใหม่ สามารถคัดลอกการเทรดของผู้เชี่ยวชาญแบบอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการวิเคราะห์ตลาด แต่แม้จะมีข้อดี เช่น ใช้งานง่าย เลือกความเสี่ยงได้ และเรียนรู้จากนักเทรดมืออาชีพ ระบบนี้ก็มาพร้อมความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ผลงานในอดีตไม่การันตีอนาคต ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมออเดอร์เอง และความเสี่ยงจากการบริหารเงินทุนของนักเทรดที่เลือก ดังนั้น การเลือกนักเทรดที่มีประวัติยาว การบริหารความเสี่ยงดี และผลลัพธ์สม่ำเสมอ ถือเป็นปัจจัยหลักในการใช้ Copy Trade ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ระยะยาว

อยากเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว แต่ก่อนจะลาออกชาวออฟฟิศต้องทำสิ่งนี้!!
ก่อนจะลาออกจากงานประจำเพื่อเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมความพร้อมทางการเงินและเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อให้สามารถรับมือความเสี่ยงในตลาดได้อย่างมั่นใจ สิ่งที่ควรทำได้แก่ การเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน 6–12 เดือน ใช้สิทธิ์ประกันสังคมและเงินชดเชยว่างงาน จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างเหมาะสม ขอคืนเงินประกันการทำงาน และเก็บเอกสารสำคัญจากนายจ้างให้ครบ การเตรียมตัวเหล่านี้ช่วยให้การก้าวสู่ชีวิตเทรดเดอร์เต็มเวลาราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น

"ค่า Spread คือดาบสองคม"สิ่งที่มือใหม่ต้องระวังก่อนเทรดจริง
บทความนี้อธิบายความสำคัญของค่า Spread ซึ่งเป็นต้นทุนแฝงที่นักเทรดต้องจ่ายทุกครั้งที่เปิดออเดอร์ในตลาด Forex แม้จะเป็นตัวเลขเล็ก ๆ แต่มีผลโดยตรงต่อกำไร โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้กลยุทธ์ที่ต้องเปิด–ปิดออเดอร์บ่อยอย่าง Scalping หรือ Day Trading ค่า Spread ที่สูงสามารถลดทอนผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญ นักเทรดมือใหม่จึงควรให้ความสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread ต่ำ ระวังช่วงตลาดผันผวนที่ Spread อาจขยายตัว และนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้มาคำนวณรวมในระบบบริหารความเสี่ยง บทความสรุปว่า การเข้าใจและจัดการ Spread อย่างถูกต้องจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการเทรด และเสริมความมั่นใจในการทำกำไรในตลาด Forex

ฟอเร็กซ์ vs หุ้น ความเสี่ยงตัวไหนแรงกว่า? เจาะลึกด้วยหลัก Money Management
บทความนี้อธิบายความเสี่ยงของการลงทุนในตลาด Forex และตลาดหุ้น โดยชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงไม่ได้เกิดจากตัวตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการใช้ Leverage การบริหารเงิน และวินัยของเทรดเดอร์เป็นหลัก Forex ถูกจัดว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากความผันผวนรวดเร็วและ Leverage สูง ขณะที่หุ้นมีความผันผวนต่ำกว่าและควบคุมความเสี่ยงได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม หากมีระบบ Money Management ที่ดี Forex ก็สามารถลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสได้เช่นกัน สรุปคือ การเลือกตลาดควรพิจารณาจากสไตล์และวินัยของผู้ลงทุนมากกว่าตัวตลาดเอง.
WikiFX โบรกเกอร์
IC Markets Global
D prime
Plus500
XM
VT Markets
FOREX.com
IC Markets Global
D prime
Plus500
XM
VT Markets
FOREX.com
WikiFX โบรกเกอร์
IC Markets Global
D prime
Plus500
XM
VT Markets
FOREX.com
IC Markets Global
D prime
Plus500
XM
VT Markets
FOREX.com
